เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ห้องไปรษณีย์นฤมิต ชั้น 1 อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก กรุงเทพฯ ไปรษณีย์ไทย จัดแถลงข่าวเปิดตัวตราไปรษณียากรที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตราไปรษณียากรที่ระลึกชุดพิเศษที่จะตราตรึงในดวงใจคนไทยตราบนิรันดร์
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์ตราไปรษณียากรพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระราชพิธีสำคัญๆ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ครบถ้วนตลอดรัชสมัย โดยได้จัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จำนวน 3 แผ่น ได้แก่ 1.ตราไปรษณียากรพระบรมสาทิสลักษณ์ ขณะทรงแย้มพระสรวล จำนวน 9 ภาพ ราคาดวงละ 9 บาท 2.ตราไปรษณียากรภาพเครื่องประกอบ ได้แก่ พระบรมโกศ พระยานมาศสามลำคาน และพระมหาพิชัยราชรถ ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พื้นหลังเป็นภาพพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพ ราคาดวงละ 3 บาท และ 3.ตราไปรษณียากรภาพพระเมรุมาศ ประกอบภาพเหตุการณ์พสกนิกรร่วมกันจุดเทียนถวายความอาลัย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2559 โดยจัดพิมพ์แผ่นละ 3 ล้านดวง ทั้งนี้ ตราไปรษณียากรชุดดังกล่าวจะขายราคาชุดละ 99 บาท แต่หากซื้อพร้อมซอง จำหน่ายราคาชุดละ 142 บาท
นางสมร กล่าวอีกว่า สำหรับตราไปรษณียากรจะเปิดจองตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 11 กันยายน 2560 หรือปิดจองก่อน เมื่อยอดจองครบจำนวนที่กำหนด 1.2 ล้านชุด โดยสามารถจองได้ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ หรือจองผ่านเว็บไซต์ www.postemart.com และชำระเงินผ่านธนาคาร ทั้งนี้ สามารถเลือกรับสินค้าได้เอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่สั่งจอง โดยนำใบเสร็จรับเงิน และบัตรประชาชนของผู้สั่งจองมารับสินค้าได้ตั้งแต่วันแรกจำหน่าย หรือให้จัดส่งตามที่อยู่ ฟรี โดยจะได้รับหลังวันแรกจำหน่าย ภายในไม่เกิน 15 วัน
ม.ล.เพ็ญแสง ลดาวัลย์ อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และหนึ่งในที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในการจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึกฯ กล่าวว่า เราได้รำลึกถึงพระราชกรณียกิจ พระราชจริยวัตรตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เราจึงอยากสะท้อนช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 ขณะทรงแย้มพระสรวล และสายพระเนตรที่สื่ออารมณ์ถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประชาชน ในตราไปรษณียากรแผนที่ 1 ที่มี 9 พระบรมสาทิสลักษณ์ ซึ่งเราประสงค์จะให้ประทับอยู่ในใจประชาชนภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพไปแล้ว ส่วนตราไปรษณียากรแผ่นที่ 2 และ 3 แสดงถึงพระเกียรติยศ พระบรมเดชานุภาพ และมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมที่คงรักษาเอกลักษณ์เหล่านี้ และคิดว่าจะสืบต่อให้รุ่นลูกหลาน ทั้งนี้ ตราไปรษณียากรทั้ง 3 แผ่นมี 13 ดวง ซึ่งมีความหมายถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 วันมหาวิปโยคของคนทั้งชาติ
นายอุดร นิยมธรรม นักออกแบบตราไปรษณียากร กล่าวถึงเทคนิคการพิมพ์ตราไปรษณียากรชุดนี้ว่า การจัดพิมพ์ตราไปรษณียากรชุดนี้ เป็นครั้งแรกที่ใช้โรงพิมพ์จากประเทศแคนาดา จากเดิมที่พิมพ์จากประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ ซึ่งก็มีวิธีและเทคนิคต่างกันไป โดยเฉพาะตราไปรษณียากรแผ่นที่ 2 และ 3 ที่ใช้เทคนิคพิเศษเพื่อตราไปรษณียากรชุดพิเศษจริงๆ อย่างแผ่นที่ 2 พิมพ์เมทัลลิกทองบริเวณเส้นขอบแผ่นแสตมป์ พิมพ์สปอตยูวีบริเวณพระบรมโกศ พระยานมาศสามลำคาน และพระมหาพิชัยราชรถ ไดคัทแผ่นแสตมป์เป็นรูปทรงลายประจำยาม ส่วนแผ่นที่ 3 พิมพ์เมทัลลิกทองบริเวณเส้นขอบแผ่นแสตมป์ ปั๊มนูนและเคลือบเงาบริเวณพระเมรุมาศ ปั๊มฟอยล์ทองตรงคำบรรยาย พระพักตร์ข้าง และเลข ๙ ตรงชานแสตมป์ ไดคัทแผ่นแสตมป์เป็นรูปทรงลายประจำยาม
