ดราม่าหนักมาก!! ประเด็นชุดราตรีสีมิดไนท์บลูที่ผสมผสานผ้ากำมะหยี่และผ้าตาข่ายผ่านฝีมือการตัดเย็บชั้นสูง พร้อมปักประดับคริสตัลสวารอฟสกี้กว่า 30,000 เม็ด ที่ “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 สวมใส่ประกวดในรอบชุดราตรี 5 คนสุดท้าย ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการประกวด มีทั้งเสียงชื่นชม และวิพากษ์วิจารณ์ชุดดังกล่าวว่าชุดที่ออกแบบไม่เหมาะกับการประกวด
ล่าสุด “หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา” หรือ “หมู อาซาว่า” ดีไซเนอร์ชื่อดังแบรนด์ Asava ผู้ออกแบบชุดดังกล่าว ผ่านนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง bazaar ถึงประเด็นดังกล่าวว่า
HB: สำหรับชุดราตรีที่ออกแบบให้มารีญาในครั้งนี้มีทั้งเสียงชื่นชมโดยเฉพาะจากคนในวงการแฟชั่น แต่ก็มีหลายเสียงติที่คิดว่าชุดที่ออกแบบไม่เหมาะกับการประกวด พี่หมูมีมุมมองต่อคำวิจารณ์เหล่านั้นอย่างไร
PA: “การที่เราได้ผู้หญิงสักคนแบบมารีญามาเป็นตัวแทนของประเทศ ซึ่งเป็นคนที่หาได้ยากมากทั้งความสวยและความฉลาด การที่เราได้เขามาและมาวิจารณ์เขาว่ารูปร่างเขาไม่เป็นนางงาม ผมคิดว่ามันเป็นวิธีคิดที่ไม่ทันสมัย ผู้หญิงสมัยนี้ควรต้อง Celebrate สิ่งที่ตัวเองเป็นไม่จำเป็นว่าจะต้องลงพิมพ์ไหน ไม่ว่าจะรูปร่างแบบไหน ผิวสีไหน หรือชนชาติไหนทุกคนทำตัวให้มีคุณค่าได้หมด วิธีคิดที่ว่าผู้หญิงต้องหน้าตาแบบนี้ รูปร่างแบบนั้น ผิวสีนี้ ผมยาวแบบนั้น มันเป็นความคิดที่เหยียดสิทธิทางเพศ ผมคิดว่าผมทำชุดนี้เพื่อ celebrate มารีญา น้องไม่มีสิ่งใดที่ต้องแก้ไข ไม่มีอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลง ผมบอกมารีญาอยู่เสมอว่าจงเป็นตัวของตัวเองเพราะตัวตนของมารีญานั้นสวยและน่าชื่นชมที่สุด เพราะฉะนั้นผมอยากบอกทุกคนว่า ความเป็นผู้หญิงในทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เปลี่ยนไปเยอะมากอยากให้ทำความเข้าใจความงามที่แท้จริงของผู้หญิงมากกว่าที่จะมองเขาเป็นแค่สิ่งของที่จะต้องลงพิมพ์นั้นลงพิมพ์นี้ มีสัดส่วนรูปร่างแบบนี้ การนำเสนอความงามของผู้หญิงผ่านรูปร่างที่ต้องสวยไร้ที่ติมันเป็นสิ่งที่ล้าสมัย และหากมองกันดีๆ แล้วมันคือทัศนคติของการมองชีวิตในแง่ลบ”
HB: asava รับหน้าที่ออกแบบชุดราตรีในรอบ 15 คนสุดท้ายมาเป็นเวลาสามปีแล้ว คิดว่าปีหน้าจะยังคงรับทำหน้าที่นี้อยู่มั้ย?
PA: “ไม่ทำแล้ว (หัวเราะ) ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันคือการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและมุมมองที่คนมีต่อนางงาม สิ่งที่พี่ทำอยู่คือการมองความสวยในแบบที่ผู้หญิงเป็น ให้มองเห็นคุณค่า ตัวตน จิตวิญญาณ มองความงามจากสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นมากกว่า ผมอยากบอกกับทุกคนว่าถ้าเรามองความสวยงามเพียงแค่เปลือกทำยังไงให้ผู้หญิงดูมีอก เอว สะโพกก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งออกแบบตัดเย็บชุดอะไรกันมากมาย แค่ไปเช่าชุดราตรีมาให้น้องเขาใส่ก็ทำได้แล้ว แต่ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของประเทศไทยและของผู้หญิงไทยในเวทีสากล มันจำเป็นจะต้องมีวิธีการคิดและกระบวนการคิดในการออกแบบนั้นมากกว่าที่จะทำให้ผู้หญิงสวยตามแบบพิมพ์นิยม หรือค่านิยมที่ผู้หญิงควรจะเป็น”
ขอบคุณภาพจาก เอเอฟพี และข้อมูลจาก http://bazaar-th.com/post/4VQbRC8/1
