ไม่ก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง ‘แบม-ปณิดา’ ไอดอลนักศึกษา เปิดโปงทุจริตเงินคนจน

กลายเป็น “มหากาพย์” เรื่องยาวไปเสียแล้ว กับการ “ทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย” ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

นับเป็บการคอร์รัปชั่นที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ

แม้การพบทุจริตจะเป็นเรื่องที่ “ไม่โอเคหนักมาก!!” ในความรู้สึกคนไทย

แต่หากไม่มีการออกมาเปิดโปง “คนไม่ดีก็คงจะลอยนวล” และ “คนจนคนยากไร้” ทั่วประเทศก็ยังคงถูก “เอารัดเอาเปรียบ” ไม่มีที่สิ้นสุด

Advertisement

เรื่องนี้ต้องยก “ความดีความชอบ” ให้นักศึกษาฝึกงาน “น้องแบม-น.ส.ปณิดา ยศปัญญา” อายุ 23 ปี

นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น จนนำไปสู่การตรวจสอบศูนย์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ ทำให้พบการทุจริตลุกลามบานปลายขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ณ ขณะนี้รวม 24 จังหวัด

ที่ “พีคยิ่งกว่า” คือ

Advertisement

การเปิดโปงครั้งนี้ ได้ไป “สะกิดแผลเก่า” ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือด่วนลับมากถึง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขณะนั้น เพื่อขอให้ตรวจสอบภายในข้อเท็จจริงการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนประเภทเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ปีงบประมาณ 2560

จากแผลเก่าจึงถูกเปิดขึ้นมาใหม่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนัก

นายกรัฐมนตรีที่ 52/2561 ให้ นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ นายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ พม.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

“2 บิ๊กข้าราชการ”

พีคในพีคยิ่งนัก!

ซึ่งทั้งหมดนี้มาจาก “แสงสว่างดวงน้อย” ของเด็กรุ่นใหม่ตัวเล็กๆ จากต่างจังหวัด

“ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่มีการตรวจสอบทั้งประเทศเช่นนี้ เพราะคิดเพียงว่าต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ที่ไม่มีเจตนาจะกรอกเอกสารที่เป็นข้อมูลเท็จและปลอมลายมือชื่อชาวบ้านเท่านั้น” แบมเปิดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่กว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้ เธอต้องผ่านเหตุการณ์ ผ่านแรงกดดันต่างๆ มาหลายครั้ง โดยเฉพาะกับความไม่เข้าใจของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่กล่าวหาว่าเธอเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” หนำซ้ำยังให้ “กราบขอขมา” เจ้าหน้าที่ศูนย์ และยังถูกทุบหลังถึง 2 ครั้ง รวมทั้งสั่งให้เปลี่ยนหัวข้อวิจัยใหม่ ทำให้จบการศึกษาช้ากว่าเพื่อนๆ

“อาจารย์ไม่ใส่ใจรับฟังข้อมูลและให้เราไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ ซึ่งเขาพูดกับเราว่าถ้าเราย้ายที่ฝึกงาน เท่ากับว่าเป็นเด็กยังไม่โต เจอเรื่องอะไรเป็นปัญหาก็ย้ายตลอด เป็นคนที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้ายังอยู่ที่นี่ เราจะมีพัฒนาการในการแก้ปัญหาปรับตัวได้ดี ทำให้เรามีประสิทธิภาพ”

“แบมคิดว่าคำพูดนี้โคตรดูถูกเลย จึงตัดสินใจฝึกงานต่อที่นี่จนจบ แต่เพื่อความสัมพันธ์อันดี อาจารย์ให้แบมคุกเข่าขอขมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ ซึ่งเราก็ต้องจำใจกราบ เพื่อจะได้เริ่มฝึกงานใหม่”

“ตอนนั้นเสียความรู้สึกมาก ทำไมอาจารย์ไม่เชื่อเรา แล้วยังให้เรามากราบคนผิดอีก” เธอเผยความรู้สึก

หากนั่นก็ไม่ทำให้เธอคิดถอย กลับเดินหน้าเข้าไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แม้จะต้องกดดันเพราะยังฝึกงานไม่จบก็ตาม


“เราเห็นใจประชาชน เราคิดว่าการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แล้วเราเรียนมาด้านนี้ เมื่อเห็นการทุจริต เอารัดเอาเปรียบคนยากคนจน จะให้เรานิ่งเฉยได้อย่างไร แม้การต่อสู้กับความไม่ดีจะทำให้เราต้องเจอกับความกดดันหลายๆ เรื่อง แต่ก็บอกตัวเองว่าให้อดทน อดกลั้น กับทุกปัญหาที่เข้ามา”

จากความกล้าหาญของเธอนำมาซึ่งคำชื่นชมจากคนทั้งสังคม จาก “คนดีที่เกือบไม่มีที่ยืน” ถูกอาจารย์กดดัน ครอบครัวญาติพี่น้องถูกคุกคาม แต่วันนี้ปณิดาเดินสายรับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆ ที่ยกย่องเชิดชูคุณงามความดีของเธอ รวมถึงกระแสในโลกออนไลน์ที่ยกให้เธอเป็นบุคคลต้นแบบ เป็นเน็ตไอดอล เป็นฮีโร่ เป็นวีรสตรี เป็นผู้หญิงเปลี่ยนโลก

“รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ได้ทำเพื่อประเทศ” เธอกล่าวสั้นๆ แต่ยิ้มภูมิใจ ก่อนบอกว่า

“เรื่องนี้เป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนเราในหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการทำให้เราได้ช่วยเหลือประเทศชาติ เราไม่คิดว่านักศึกษาตัวเล็กๆ จากต่างจังหวัดจะทำได้ขนาดนี้ และจากบทเรียนนี้สอนเราว่า เวลาทำงานต้องมีความซื่อสัตย์ เงินเดือนได้แค่ไหนก็ใช้แค่นั้น ไม่จำเป็นต้องอยากได้ของคนอื่นที่ทำให้เดือดร้อน”

แบมฝากถึงคนรุ่นใหม่ หากพบความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น หลักง่ายๆ คือ “ให้คิดถึงส่วนรวมเป็นหลัก อย่าเพิกเฉยต่อความไม่ถูกต้อง การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

สุดท้ายเธอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้เธอ ขอบคุณที่ร่วมต่อสู้และยืนเคียงข้างด้วยกันมา

เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม วันที่รำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนา รวมทั้งนำไปสู่การทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตลอดจนสิทธิมนุษยชนของสตรีและประชาชนทุกคน

แบม-น.ส.ปณิดา ยศปัญญา คือสตรีอีกหนึ่งคนที่เป็นต้นแบบของผู้ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้องในสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image