เอชพี อิงค์แท็งค์ ไวร์เลส 415 ออลอินวัน (HP ink tank wireless 415 All in one) เป็นพรินเตอร์แท็งค์แท้อีกรุ่นจากเอชพี ที่เจาะกลุ่มพวกธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี กับฟรีแลนซ์ เป็นหลัก โดยตัวเครื่องไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก อยู่ในขนาดปกติของออลอินวัน คือทั้งพิมพ์งาน สแกน และถ่ายสำเนาได้ โดยมีบริเวณด้านข้างเครื่องที่จะเป็นที่สำหรับแท็งค์ใส่น้ำหมึกทั้งหมด 4 ขวด 4 สี คือ สีดำ ที่จะให้มาขนาดใหญ่สุด ที่เหลือก็จะเป็นแม่สี คือ แดง เหลือง และน้ำเงิน
เครื่องที่ให้มาทดสอบเป็นเครื่องที่เติมน้ำหมึกมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยตัวถังหมึกนั้นจะเป็นแบบใส ทำให้สามารถมองเห็นปริมาณน้ำหมึกที่ยังเหลืออยู่ได้ง่าย เวลาเติมหมึกนั้นก็จะเป็นการเติมหมึกที่ง่าย ไม่หกเลอะเทอะ ซึ่งหลายคนน่าจะชื่นชอบ เพียงแต่เสียบขวดหมึกลงไปโดยไม่ต้องมีการบีบขวดหมึกแต่อย่างใด
โดยเวลาป้อนกระดาษ ก็จะต้องป้อนกระดาษจากด้านบนของเครื่อง ส่วนถาดรองรับนั้น จะเป็นเพียงแท่นเล็กๆ ที่พับงอได้ 2 ระดับ เพื่อให้รองรับกระดาษได้พอดีก็ต้องดึงถาดออกมาเต็มที่ กระดาษจะได้ไม่หล่น
คุณภาพในการพิมพ์นั้น ก็ต้องบอกว่าไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร หรืองานพิมพ์ภาพ ก็ไม่มีปัญหาเลย เพราะมีความคมชัด และสามารถกันน้ำได้อีกด้วย โดยทางเอชพีการันตีว่า สามารถทนต่อการซีดจางได้ถึง 22 เท่า เพียงแต่ต้องย้ำว่า หมึกที่ใช้จะต้องเป็นหมึกของเอชพีแท้ๆ เท่านั้น เพื่อคุณภาพของงานที่ดีที่สุด
จุดเด่นอีกอย่างคือเรื่องของ “ไวร์เลส” โดยนอกเหนือจากที่จะสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านทางสายยูเอสบีได้แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านทางไวไฟได้อีกด้วย และยังสามารถพิมพ์งานจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ได้ เพียงโหลดแอพพลิเคชั่น HP Smart เอาไว้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ก็สามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ แม้ว่าจะไม่มีเครือข่ายไวไฟก็ตาม อันนี้ถือว่ามีความสะดวกอย่างมาก
โดย HP Smart ยังสามารถใช้เพื่อการสแกนไฟล์จากมือถือแล้วแชร์ต่อไปยังอีเมล์หรือระบบ คลาวด์ก็ได้
และอย่างที่รู้กันว่า เครื่องพิมพ์แท็งค์แท้นั้น มีเพื่อตอบสนองการพิมพ์งานในจำนวนมาก โดยถ้าเป็นขาวดำ จะสามารถพิมพ์ได้มากถึง 6,000 แผ่น แต่ถ้าเป็น 1 ชุดพิมพ์ 3 สี จะสามารถพิมพ์ได้มากถึง 8,000 แผ่นเลยทีเดียว ถ้าเอามาหารดูกับราคาของเครื่องที่อยู่ที่ประมาณห้าพันกว่าบาท ก็จะได้งานที่มีต้นทุนที่ถูกมากๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และฟรีแลนซ์ อย่างที่เอชพีตั้งเป้าไว้
มาถึงเวลาที่กระดาษติดกันบ้าง อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า เลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพรินเตอร์รุ่นไหน ดีเลิศแค่ไหน แพงแค่ไหน เรื่องกระดาษติดในเครื่องถือเป็นเรื่องปกติที่พบเจอได้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่
ทีนี้ พอกระดาษติด สำหรับรุ่นนี้ จะต้องทำอย่างไร ก็เพียงแค่เปิดฝาด้านหน้าออก แล้วเปิดฝาด้านในออกอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ส่องเข้าไปดู แล้วดึงเอากระดาษที่ติดอยู่ออก โดยอาจจะต้องมีการเลื่อนหัวพิมพ์บ้างเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยของหัวพิมพ์ ซึ่งหากจะเทียบกับพรินเตอร์ทั่วไปที่เคยเจอ จะสามารถเปิดตัวเครื่องขึ้นมาได้เพื่อดึงกระดาษออก ก็จะดึงได้ง่ายหน่อย แต่สำหรับรุ่นนี้ การดึงกระดาษที่ติดอยู่ออกอาจจะยากหน่อย
ทางที่ดีคือ ก็พยายามอย่าให้กระดาษติดเป็นดีที่สุด และเบื้องต้นจากการทดสอบก็พบว่า การใช้กระดาษรียูส หรือกระดาษใช้ซ้ำหน้าที่ 2 อาจจะทำให้ได้งานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือจะมีการเลอะเทอะบ้าง แต่ถ้าเป็นกระดาษใหม่เลย ก็ต้องบอกว่า ได้งานที่ดีเยี่ยมทีเดียว