ถ้าเอ่ยถึงชื่อของซัมซุง หลายๆ คนก็อาจจะนึกถึงเรื่องของ “สมาร์ทโฟน” หรือไม่ก็เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน แต่จริงๆ แล้วซัมซุงเองยังมีธุรกิจอีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่หน้าบ้านเท่านั้น หากแต่เบื้องหลังธุรกิจทั้งหลายก็มีซัมซุงอยู่
นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันอุปกรณ์ต่างมีการเชื่อมต่อกันทั้งหมด แล้วมีการส่งผ่านข้อมูลออกไปบนโลกออนไลน์ จนทำให้เกิดเป็น “บิ๊กดาต้า” ขึ้นมา และปัจจุบันเราไม่ได้เดินตามเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนด้วยการเป็นผู้ใช้งานเพียงเท่านั้น แต่ความคิดและไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ ทั้งเพื่อความบันเทิงและธุรกิจ ล้วนเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งซัมซุงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า เน็กซ์ โมบาย อีโคโนมี คือการที่โมบายเทคโนโลยีถูกผนึกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่องค์กรต้องคำนึงถึงเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง หากแต่การปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การทำงานบนระบบโมบาย ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงหลายด้าน
โดยซัมซุงใช้เงินจำนวนมหาศาล หรือคิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด ในการวิจัยและพัฒนา อย่างเช่น เอสเพน ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธได้แล้ว แต่คนอื่นยังทำไม่ได้ และหนึ่งในผลงานการวิจัยของซัมซุงที่นำมาเล่าสู่กันฟังครั้งนี้ คือเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งซัมซุงเล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม “ซัมซุง น็อกซ์” ขึ้นมาซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีที่เทียบเท่ากับที่ใช้ในการทหาร ประกอบด้วย ระบบรักษาความปลอดภัยหลายระดับตั้งแต่ซอฟต์แวร์ไปจนถึงฮาร์ดแวร์ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจจะได้รับการปกป้องดูแลและไม่รั่วไหลจากการใช้งานบนสมาร์ทโฟน รวมถึงแท็บเล็ต
ที่สำคัญคือ ซัมซุงเองยังมีโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ครบครัน ที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ตอบรับความต้องการของธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม ซึ่งนายวิชัยได้อธิบายไว้ว่า เวลาที่ข้อมูลไปอยู่บนคลาวด์ ตัวกุญแจที่จะหาเซฟนี้จะอยู่บนน็อกซ์ และหากมีความพยายามในการแฮก กุญแจนี้ก็จะถูกเผาในทันที ทำให้ข้อมูลมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด บอกว่า ปัจจุบันอุปกรณ์เกือบทุกอย่างในชีวิตมีการเชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งซัมซุงเองอาสาเข้ามาช่วยทำตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เซอร์วิส และซีเคียวริตี้ (ความปลอดภัย)
ซัมซุงจึงได้ออกแบบโซลูชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการและสนับสนุนการทำงานขององค์กรในยุค เน็กซ์ โมบาย อีโคโนมี ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสร้างประสบการณ์ในการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรม นอกจากความโดดเด่นด้านผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนที่ซัมซุงเป็นผู้นำในตลาดโลก “ซัมซุง น็อกซ์” ยังเป็นแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัยบนอุปกรณ์พกพาเพียงหนึ่งเดียวที่มีความปลอดภัยระดับสูงสุด และยังเอื้อต่อผู้ดูแลระบบในการดูแลควบคุมโดยไม่กระทบกับการใช้งานและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังง่ายต่อการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจ รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ในอีโคซิสเต็ม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับธุรกิจ
ตัวอย่างของการใช้น็อกซ์ เช่น ที่สนามบินสิงคโปร์ มีการนำซัมซุง วอทช์ ใส่น็อกซ์เข้าไป แล้วใช้เพื่อการสื่อสารกันระหว่างสำนักงานกับกราวด์ โดยผ่านโครงข่ายแอลทีอี ไม่ใช่ไวไฟ โดยทำอีซิมใส่ไว้ในนาฬิกา แล้วใช้นาฬิกาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแทนวอล์กกี ทอล์กกี และเหตุที่สนามบินสิงคโปร์กล้าใช้เทคโนโลยีน็อกซ์ ก็เพราะว่าน็อกซ์ปลอดภัยถึงชิปเซต ซึ่งสถาบันความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ให้การรับรอง และสามารถใช้ได้ทั้งด้านการทหารและการบิน
นั่นก็แปลว่าอย่างอื่นก็ต้องใช้ได้หมด และแน่นอนว่า รวมไปถึงสถาบันการเงินอย่างธนาคารออมสินของไทยก็กล้าที่จะใช้น็อกซ์ หรือจะเป็นธนาคารในอินเดีย ที่ต่อไปจะไม่มีสาขาอีกต่อไป และปลอดภัยได้ด้วยน็อกซ์ เพราะมีการเข้ารหัสในทุกเลเยอร์ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ใช้ซัมซุงน็อกซ์
สำหรับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น จะเป็นการทำผ่านพาร์ตเนอร์ และจะต้องทำให้ทุกคนเข้าใจก่อน เพราะจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
นายวิชัยกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันอุปกรณ์แทบทุกตัวของซัมซุงเองนั้นใส่น็อกซ์ไว้อยู่แล้ว และเปิดให้ผู้พัฒนาสามารถเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งหากบริษัทไหนหรือองค์กรไหนที่สนใจจะนำน็อกซ์ไปใช้กับอุปกรณ์ตัวไหน ก็จะสามารถเปิดใช้งานได้เลย เพียงแต่ใส่โซลูชั่นเข้าไปเสริมเท่านั้น
“น็อกซ์จะเป็นอีกตัวที่ทำให้ซัมซุงมีความแตกต่างออกไป เรื่องของกำไรยังไม่ใช่เรื่องสาระสำคัญ แต่จะทำให้ซัมซุงเป็นมากกว่าโมบายเจ้าอื่นๆ” นายวิชัยกล่าวทิ้งท้าย
