เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทม์ส ของมาเลเซียรายงานถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตของ นาย โมฮัมหมัด อาอิดี้ อัซซาร์ ซาห์ริน วัยรุ่นอายุ 16 ปี ที่ถูกพบเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านตัวเอง ที่เมืองเร็มเบา ประเทศมาเลเซีย สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นบ้านขณะที่ยังมีหูฟังคาอยู่เพื่อรับฟังเพลงจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟน บริเวณช่องหูมีเลือดไหลออกมาจำนวนหนึ่ง
ตามรายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสภาพร่างกายของผู้ตายไม่มีร่องรอยว่ามีบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บใดๆ นอกเหนือจากรอยไหม้ที่บริเวณช่องหูด้านซ้าย จากการชันสูตรพลิกศพในเวลาต่อมายืนยันว่าเด็กหนุ่มรายนี้เสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าชอร์ต ทำให้สันนิษฐานได้ว่าผู้ตายฟังเพลงจากหูฟังอยู่ในขณะที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไปด้วย ในขณะที่น้องชายของผู้ตายก็ให้ปากคำด้วยว่า ถ้าหากสัมผัสสายชาร์จก็จะรู้สึกเหมือนถูกไฟอ่อนๆ ชอร์ต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ชาร์จมีอาการขัดข้องอยู่บ้าง แต่ในรายงานข่าวไม่ได้ระบุเพิ่มเติมว่าอุปกรณ์ชาร์จดังกล่าวเป็นของผู้ผลิตใด
กรณีของเด็กหนุ่มชาวมาเลเซียรายนี้ถือเป็นรายที่ 4 แล้วในรอบปีนี้ ซึ่งเสียชีวิตเพราะถูกกระแสไฟฟ้าลัดวงจรรั่วไหลผ่านสายเคเบิลของชาร์เจอร์เข้ามาสู่ร่างกายของผู้ใช้ผ่านหูฟังประเภทอินเอียร์ ขณะที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไปด้วยและฟังเพลงไปด้วยพร้อมๆ กัน
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ลุยซา พินเฮโร นักศึกษาวัย 17 ปี ก็ถูกพบเสียชีวิตในลักษณะคล้ายคลึงกันในบ้านตัวเอง ที่เมืองริอาโช ฟรีโอ ประเทศบราซิล หลังจากเกิดกระแสไฟกระชากฉับพลัน จนไฟฟ้าแรงสูงผ่านจากอุปกรณ์ชาร์จไปตามสายหูฟังเข้าสู่หูของเธอ ถึงขนาดหูฟังหลอมละลายคาอยู่ภายในช่องหูของพินเฮโรนั่นเอง
เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลในท้องถิ่นตั้งข้อสังเกตว่า กรณีนี้ถึงเสียชีวิตได้ในพริบตาเพราะแม้กระทั่งตัวสมาร์ทโฟนเองก็หลอมละลายไปอีกด้วย
ในเดือนพฤษภาคม เดอะ ไทม์ส ออฟ อินเดีย รายงานว่า สตรีวัย 46 ปีรายหนึ่งในหมู่บ้านคณาธุระ ในอินเดีย ผล็อยหลับไประหว่างฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนขณะที่กำลังชาร์จประจุอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นตั้งข้อสงสัยว่าจะเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นในเดือนมิถุนายนก็มีรายงานว่า ชายชาวอินเดียวัย 22 ปีอีกรายจากหมู่บ้เาน ปานดิโย กำลังชาร์จโทรศัพท์และฟังเพลงไปด้วย ต่อมาเกิดไฟดับ ต่อเมื่อกระแสไฟกลับมาอีกครั้งหนึ่งชายหนุ่มก็ถูกกระแสไฟไหลผ่านหูฟังชอร์ตจนเสียชีวิตเช่นเดียวกัน
ไลเนลล์ คอลลินส์ เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเพื่อการค้าอย่างเป็นธรรมประจำรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า กรณีทำนองนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่จำเพาะแต่ในประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้น เพราะเมื่อปี 2014 เคยเกิดกรณีผู้หญิงออสเตรเลียวัย 28 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตเพราะถูกกระแสไฟฟ้าจากสายชาร์จผ่านหูฟังจนเสียชีวิตมาแล้วเช่นกัน
แม้ว่าในกรณีดังกล่าวนั้นสามารถระบุได้ชัดว่าเกิดจากปัญหาขัดข้องของอุปกรณ์ชาร์จ ไม่ได้แปลงกระแสไฟบ้านให้เป็น 5 โวลต์ ซึ่งเป็นกระแสขาออกปกติ แต่กลับส่งผ่านไฟบ้านเข้ามายังหูฟังแทน
ร็อด สโตว์ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการค้าอย่างเป็นธรรมของออสเตรเลียยืนยันว่า การป้องกันเบื้องต้นคือการเลือกอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและหากเป็นไปได้ก็งดฟังเพลงขณะชาร์จโทรศัพท์นั่นเอง
