‘ซีดีจี’ คาดตลาดไอทีสดใส กระตุ้นสังคมไทยเดินหน้าทรานส์ฟอร์เมชั่น

กลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรแก่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เผยตัวเลขจาก IDC คาดประเทศไทยจะมีเงินหมุนเวียนในตลาดไอทีสูงถึง 470,000 ล้านบาท ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้างาน ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยภายในปี 2563 กว่า 20% จะปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรให้เป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ชู 3 จุดเด่นโซลูชั่น คือ 1) Big Data/ Data Analytics 2) IoT และ 3) Privacy/ Security พร้อมนำจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานสนับสนุนภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ก้าวสู่ความเป็น Smart Government และให้การสนับสนุนในด้าน e-citizen service solutions เพื่อการบริการประชาชนที่ดีขึ้น เผยเทรนด์ที่จะส่งผลต่อภาคธุรกิจ คือ Blockchain, Artificial Intelligence (AI), Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) และGlobal Internet of Things (IoT) security breach ตั้งเป้าเติบโต 10% โดยยังคงสัดส่วนหลักจากภาครัฐที่ 90%

นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ซีดีจี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ IDC คาดใน 2-3 ปีจากนี้ ประเทศไทยจะมีเงินหมุนเวียนในตลาดไอทีสูงถึง 470,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นขององค์กรของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยคลาวด์ เซอร์วิส (Cloud Service) ยังคงเป็นส่วนที่ได้รับความสนใจ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำรายได้ให้ตลาดไอทีได้สูงกว่า 48,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ตัวเลขจากงานวิจัยของ IDC ยังระบุว่าภายในปี 2563 มากกว่า 20% ขององค์กรจะปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรให้เป็นดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ เพื่อเสริมศักยภาพและพร้อมแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

นายนาถ ลิ่วเจริญ

“ซีดีจียังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบ System Integrator เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็วและใหม่ขึ้นทุกวัน ด้วย 3 จุดเด่นโซลูชั่นที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำงาน ให้กับองค์กรภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ 1) Big Data/Data Analytics 2) IoT และ 3) Privacy/ Security โดยในส่วนของ Big Data และ Data Analytics ทั้งภาครัฐและเอกชนจะพบว่าข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่ข้อมูลเหล่านั้นเองคือโอกาสที่สามารถนำมาจัดการและรวบรวมให้เป็นหมวดหมู่ ให้ง่ายต่อการวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ในขณะเดียวกัน เทรนด์ในการพัฒนาเมืองของภาครัฐสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart city) จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง IoT ในการบูรณาการเข้ากับระบบ เสริมด้วยงาน e-citizen services เพื่อการบริการประชาชนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อข้อมูลกลายเป็นหัวใจของการทำงาน Privacy/ Security หรือการจัดการระบบการเข้าถึงข้อมูลและการปกป้องข้อมูล จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกหน่วยงาน โดยทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่บริษัทให้การผลักดันให้เกิดเป็นโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการให้ลูกค้า ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา โดยยังคงสัดส่วนหลักจากภาครัฐที่ 90%” นายนาถกล่าว

นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ของ Gartner ในบทความ Gartner Top 10 Strategic Technology Trends for 2019 ซีดีจี พบ technology trends ที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อภาคธุรกิจหลักๆ คือ Blockchain, Artificial Intelligence (AI), Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) และ Global Internet of Things (IoT) security breach

Advertisement

เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) คือการนำมาใช้ให้เป็นรูปธรรมสำหรับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพเรื่องของความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลและความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่เสริมการทำงานร่วมกันระหว่างแผนก หน่วยงาน และองค์กร เช่น เอกสารสำคัญ โฉนดที่ดิน และการดำเนินธุรกรรมต่างๆ เป็นต้น

Artificial Intelligence หรือ AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ยังคงเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ การเกษตร และทางการแพทย์ หากจะมองให้แคบลงอีก สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนในปีนี้คือ การนำแมชชีนเลิร์นนิ่งและ AI มาใช้สร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการกระบวนการทำงาน หรือแม้แต่การนำ chatbot เข้ามาใช้โต้ตอบกับลูกค้าเพื่อการบริการ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ chatbot ยังถูกนำมาใช้ในองค์กร เพื่อลดจำนวนงานและขั้นตอนการทำงานให้กระชับยิ่งขึ้น คาดปลายปี 2562 กว่า 40% ขอธุรกิจขนาดใหญ่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานภายในองค์กรด้วยการนำ Chatbot มาประยุกต์ใช้

Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) แม้ในปีที่ผ่านมา กระแสของ VR จะยังมาไม่แรงเท่า AR แต่การตื่นตัวของภาคธุรกิจทั่วโลกที่อยากผลักดันเทคโนโลยีนี้ เราจึงเห็นความพยายามในการนำเสนอต้นทุนอุปกรณ์ที่ต่ำลงเพื่อให้เข้าถึงคนทั่วไปได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ขณะเดียวกันเทคโนโลยี Mixed Reality (MR) ซึ่งเป็นส่วนผสมของ AR และ VR เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมทับซ้อนพื้นที่จริงแบบเรียลไทม์ และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเข้าถึงวัตถุเสมือนได้ ได้รับความสนใจมากขึ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์

Advertisement

Global Internet of Things (IoT) security breach แนวโน้มของการเกิดความไม่ปลอดภัยหรือการรั่วไหลของข้อมูลจากการเชื่อมต่อของอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น จากการพัฒนาและนำมาใช้อย่างแพร่หลายของอุปกรณ์ IoT ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ Gartner คาดการณ์ว่าจากนี้จนถึงปี 2563 จะมีการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่างๆ ทั่วโลกถึง 20.4 ล้านชิ้น จึงเกิดกระแสการตื่นตัวจากผู้ผลิตชิ้นส่วน IoT ที่เริ่มมองหาการรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ที่รัดกุมขึ้น

นายนาถกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ทำให้ทุกภาคส่วนมีการปรับตัวเพื่อสอดรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยปัจจุบันจะเห็นได้จากการ transform ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่ต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการร่วมกันผลักดันของทุกภาคส่วนตามแผนยุทธศาสตร์ประเทศสู่ Thailand 4.0 จากข้อมูลของ BOI ระบุว่าภาครัฐมีการเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดความพร้อมในการใช้ระบบ e-documents โดยตั้งเป้าในปี 2564 มากกว่า 80% ของหน่วยงานภาครัฐ ต้องเข้าสู่เปเปอร์เลส ออฟฟิศ (Paperless Office) ซึ่งหมายถึงโอกาสในการบริการประชาชนที่มีศักยภาพมากขึ้น และในปี 2563 สัดส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะเติบโตถึง 10% ซึ่งเป็นผลมาจาก mobile payment โดยหากมองจากเทรนด์นี้ โอกาสที่น่าจับตามองในการเติบโตของธุรกิจ IT คือเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงถึงโซลูชั่นในการรองรับความปลอดภัย ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสเช่นกัน

“ซีดีจีในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเดินหน้างานดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานสนับสนุนภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ สร้างการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน รวมทั้งผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ก้าวสู่ความเป็น Smart Government และให้การสนับสนุนในด้าน e-citizen service solutions เพื่อการบริการประชาชนที่ดีขึ้นผลักดันประเทศผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมที่ดีขึ้น และเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ เป็นหลักสำคัญ” นายนาถกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image