ดัน“พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า”อพวช.คลอง 5 ปทุมธานีขึ้น’ฮับ’พิพิธภัณฑ์นิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อมอาเซียน

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรักษาการ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) เดินทางมาที่องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ 5 ธันวาคม 2550 โดยมี ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.) และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม

ดร.พิเชฐ เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมว่า ขณะนี้การดำเนินการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า มีความคืบหน้าไปมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างเรียบร้อยดี คาดว่าปลายเดือนมีนาคม 2562 นี้จะแล้วเสร็จทั้งหมด และในเดือนมิถุนายน 2562 จะมีเปิดพิพิธภัณฑ์อย่างไม่เป็นทางการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าชมเพื่อทดสอบระบบการให้บริการต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์ ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2562 นี้ เชื่อว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะเป็นสถานที่เรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สำคัญของประเทศไทยด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ จะเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่มีชีวิต มีเนื้อหาสาระที่นำเสนอผ่านนิทรรศการที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นำเสนอผ่านหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ใน 3 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย 1.บ้านของเรา นำเสนอการก่อกำเนิดจักรวาล ระบบสุริยะและโลก วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจนถึงกำเนิดมนุษย์ 2. ชีวิตของเรา นำเสนอสิ่งแวดล้อมและการปรับตัวของมนุษย์ให้เข้ากับระบบนิเวศ และ 3.พระราชาของเรา เพื่อแสดงให้เห็นถึงหลักคิด วิธีการทรงงาน และกระบวนการค้นหาคำตอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของพระองค์ที่ทรงนำไปแก้ปัญหาหรือพระราชทานแก่พสกนิกรพื้นที่ต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน

รมว.วท.กล่าวต่อว่า พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่ ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก ด้วยมีเนื้อที่กว่า 47,400 ตารางเมตร ดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะดำเนินการผลักดันยกระดับให้พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า กลายเป็นศูนย์กลางหรือฮับ(Hub) การเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของอาเชียน เพราะเรื่องราวภายในพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ทำการร้อยเรียงความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์และความสมดุลของชีวิตบนโลก นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของจักรวาลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสรรพสิ่งไปจนถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การเรียงร้อยเรื่องราวดังกล่าวดำเนินอยู่บนแกนความคิดซึ่งถอดมาจากแนวพระราชดำริ ทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมนำเสนอข้อมูลทรัพยากรน้ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้ง การจัดแสดงระบบนิเวศของไทยและของโลกที่สมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย

“การยกระดับพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ให้เป็นฮับหรือศูนย์กลางพิพิธภัณฑ์ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของอาเชียน ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะขณะนี้กำลังมีความพยายามที่จะต้องการให้บริเวณคลอง 5 เทคโนธานี เป็นเหมือนศูนย์รวมของพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากมีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ มากมายไปตั้งอยู่ รวมถึงหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกับอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ทำให้เกิดเป็นเมืองวิทยาศาสตร์ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งจะเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่สำคัญ ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังมีเชื่อมโยงระบบเครือข่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานโดยเฉพาะระบบขนส่งคมนาคม รถไฟฟ้าถึงรังสิต คลองหลวง ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าสู่พิพิธภัณฑ์พระรามเก้าและอื่นๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องพูดถึงการจะมีสวนสัตว์ดุสิตที่จะเสร็จสมบูรณ์ ในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้บริเวณคลอง 5 กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแห่งหนึ่ง” ดร.พิเชฐ กล่าวและว่านอกจากนี้ อพวช.ยังมีความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก ซึ่งจะเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายการเรียนรู้ขนาดใหญ่ผ่านระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนระหว่างพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

Advertisement

ด้าน ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.อพวช.กล่าวว่า ภายในปี 2562 เราจะได้เห็นและสัมผัสกับพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ที่ทันสมัยและสมบูรณ์ที่สุดทั้งเรื่องของเนื้อหา การนำเสนอและระบบเทคโนโลยี ที่สำคัญพวกเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมกันสืบทอดตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา พระองค์ทรงงานหนักมากมายเพื่อประโยชน์สุขของเราชาวไทยมาเป็นเวลายาวนานตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์

ผอ.อพวช.กล่าวต่อว่า สำหรับระบบขนส่งมวลชนมีความสำคัญมากในการนำผู้เข้าชมให้เข้ามาเรียนรู้และร่วมกิจกรรมของ อพวช. ซึ่งมีกิจกรรมหมุนเวียนตลอดทั้งปี ขณะนี้ อพวช.กำลังเจรจากับจังหวัดปทุมธานี เพื่อเตรียมแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนไว้รองรับพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ โดยในระยะแรกจะพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรวมทั้งการเข้ามาร่วมให้บริการจาก ขสมก. ส่วนในระยะยาวจะได้หารือกับ สนข.เพื่อพัฒนาระบบรางสายรอง เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image