“สัตว์ประหลาด” จากส่วนลึกสุด ของมหาสมุทรอินเดีย

(ภาพ-Five Deeps Expedition)

ทีมสำรวจร่องลึกของมหาสมุทร “ไฟว์ ดีพส์ เอ็กซ์เพดิชัน” ซึ่งนำโดย วิคเตอร์ เวสโคโว นักธุรกิจและนักลงทุนตลาดหลักทรัพย์ชาวอเมริกัน ที่ตั้งเป้าจะดำลงไปสำรวจร่องลึกหรือ “เทรนช์” ของมหาสมุทรทั้ง 5 มหาสมุทรให้ครบถ้วน ประเดิมด้วยการสำรวจ “ชวาเทรนช์” หรือ “ร่องลึกชวา” ซึ่งเป็นจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรอินเดีย นำภาพวิดีโอที่ถ่ายทำจากการสำรวจดังกล่าวมาเผยแพร่เพื่อแสดงให้เห็นภาพสิ่งมีชีวิตประหลาดที่พบผ่านเข้ามาหน้ากล้องของทีมสำรวจดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้

อลัน เจมีสัน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ประจำทีมสำรวจ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์อาวุโสประจำมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ในประเทศอังกฤษ ไม่มีใครในทีมสังเกตพบสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ขณะสำรวจ แต่เมื่อนำกล้องกลับขึ้นมาแล้วเล่นวิดีโอที่ถ่ายเอาไว้ดูกัน จึงได้พบตัวประหลาดตัวหนึ่งเคลื่อนผ่านเข้ามาหน้ากล้อง ลอยตัวกระเพื่อมอยู่ระยะหนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนออกห่างจากกล้องไป

เจมีสันระบุว่า เจ้าตัวประหลาดที่ว่านี้เหมือนกับจู่ๆ โผล่ออกมาจากความมืด หางหรือหนวดที่ยาวมากของมันทำให้ลักษณะรวมๆ เหมือนกับลูกโป่งผูกเชือกที่ถูกผูกไว้กับบางสิ่งบางอย่างนั่นเอง

หลังจากที่ตรวจสอบพรรณนาความในการค้นพบทางชีววิทยาก่อนหน้านี้ เจมีสันพบว่า กลุ่มนักสำรวจในญี่ปุ่นเคยบรรยายถึงบางสิ่งบางอย่างเหมือนกับที่พบเห็นในชวาเทรนช์ครั้งนี้ไว้เมื่อราว 20 ปีก่อนหน้านี้ โดยระบุว่าเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งในกลุ่มเดียวกันกับ “แอสซิเดียน” หรือ “ซี สเควิร์ท” ที่ในไทยเรียกว่า “เพรียงหัวหอม” เนื่องจากลักษณะรูปร่างคล้ายหัวหอม แต่ไม่ได้เป็นสปีชีส์เดียวกันกับที่เคยพบ ซึ่งถูกระบุเอาไว้ว่าจะมี “ฟีลาเมนต์” หรือหนวดออกมาจากส่วนหัว ในขณะที่ตัวที่เจมีสันพบในวิดีโอจากชวาเทรนช์กลับไม่มีฟีลาเมนต์ดังกล่าวให้เห็น

Advertisement

ซึ่งทำให้มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะกลายเป็น ซี สเควิร์ทสปีชีส์ใหม่ที่ไม่เคยมีการค้นพบมาก่อน ที่ความลึกมากกว่า 6,500 เมตร

เจมีสันระบุว่า เจ้าสัตว์ประหลาดนี้ใช้หนวดหรือหางยาวเหยียดของมันยึดกับบางสิ่งบางอย่างบนพื้นทะเลลึก เป็นไปได้ที่จะพยายามยึดตัวเองให้อยู่นิ่ง ภายในสภาพแวดล้อมที่เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาของร่องลึก (ซึ่งมักเกิดขึ้นในบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น โดยที่แผ่นหนึ่งมุดเข้าใต้อีกแผ่นหนึ่ง ทำให้เกิดการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา)

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันจำเป็นต้องมีหางหรือหนวดยาวมากก็เพื่อให้สามารถประคองตัวเองให้สามารถ “กรอง” สิ่งที่เป็นอาหารได้ที่ระดับความสูงราว 1 เมตรเหนือระดับพื้นมหาสมุทรนั่นเองd

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image