จนถึงขณะนี้ ทั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกา และ บริษัท สเปซเอ็กซ์ คู่สัญญาของนาซา ยังไม่ได้แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างการทดลองระบบจรวดส่งและระบบดีดตัวของยานขนส่งอวกาศ “ครูว์ดรากอน” ซึ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อ 20 เมษายนที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงการจัดส่งมนุษย์อวกาศของนาซา และกระทบต่อโครงการใช้ยานครูว์ดรากอนในเชิงพาณิชย์ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ด้วยเช่นเดียวกัน
การทดลองเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมานั้น เป็นการทดสอบยานครูว์ดรากอน บนแท่นยิงที่ต้องดำเนินการเป็นกิจวัตร ยานครูว์ดรากอนที่นำมาทดสอบเป็นยานลำเดียวกับที่เพิ่งประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินและเข้าเทียบกับสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการเพื่อทดสอบระบบยกเลิกการยิงกะทันหันที่จะดำเนินการต่อไป โดยในการทดสอบเมื่อ 20 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีขึ้นบนฐานยิงที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา เป็นการทดสอบการยิงเครื่องยนต์ “ซุปเปอร์ดราโค” ที่ได้รับการออกแบบใหม่ ที่จะดึงเอาตัวครูว์ดรากอนพ้นจากฐานยิงและจรวดส่งในระยะที่ปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุผิดปกติขึ้น
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ฟลอริดา ทูเดย์ และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีกหลายราย ได้เริ่มเกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาจากฐานยิง ในขณะที่คลิปวิดีโอซึ่งถูกโพสต์ไว้ออนไลน์แต่ถูกดึงออกไปแล้วในเวลานี้ แต่เว็บไซต์ อาร์ส เทคนิกา ระบุว่า ในคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังนับถอยหลังเพื่อยิงเครื่องยนต์ซุปเปอร์ดราโคของยานครูว์ดรากอน ตอนที่ยานครูว์ดรากอนเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ ภายในช่วงเวลา 10 วินาทีสุดท้ายของการนับถอยหลัง
บริษัทสเปซเอ็กซ์ออกแถลงการณ์ระบุว่า การทดสอบดังกล่าว “ช่วงเริ่มต้นประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์ แต่ในการทดสอบตอนสุดท้ายได้เกิดความผิดปกติขึ้น” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบของบริษัทบรรลุถึงมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงในการตรวจพบความผิดปกติเช่นนี้ก่อนการขึ้นบิน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทต้องดำเนินการทดสอบ โดยระบุด้วยว่ากำลังตรวจสอบและทำงานใกล้ชิดกับนาซา เพื่อหาสาเหตุในเรื่องนี้
ทางด้านนาซา ผู้อำนวยการ จิม ไบรเดนสไตน์ ออกแถลงการณ์คล้ายคลึงกัน โดยชี้ว่า ทีมของนาซาและสเปซเอ็กซ์กำลังประเมิน “ความผิดปกติ” ที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบ
ถ้อยแถลงทำนองดังกล่าวทำให้ไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิด และยังไม่มีการพูดถึงความเสียหายว่ามากน้อยแค่ไหนอย่างไรอีกด้วย แต่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายในระดับที่ไม่น่าจะซ่อมแซมได้อย่างรวดเร็วและถือเป็นข่าวร้ายต่อสเปซเอ็กซ์เอง ที่เตรียมการทดสอบระบบยกเลิกการยิงกะทันหันเป็นลำดับต่อไป ทั้งยังทำให้บริษัทต้องนำยานครูว์ดรากอน (ซึ่งเดิมกำหนดไว้ว่าจะใช้เพื่อนำมนุษย์อวกาศอเมริกันไปส่งยังไอเอสเอส) มาใช้เพื่อการทดลอง หรือไม่ก็ต้องสร้างแคปซูลจำลอง ซึ่งมีสมรรถนะที่จำเป็นเพียงพอขึ้นมาเพื่อใช้ในการทดเครื่องยนต์ซุปเปอร์ดราโคขึ้นมาใหม่
การระเบิดดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อแผนงานของนาซาที่เตรียมจะใช้ยานของสหรัฐอเมริกาเองนำส่งนักบินอวกาศสู่ไอเอสเอสให้ได้ภายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ไม่เช่นนั้นต้องเจรจาเพื่อต่อสัญญาใช้งานยานโซยูซของรัสเซียต่อเนื่องต่อไปอีก ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่ากำหนดการในเดือนกรกฎาคมคงต้องเปลี่ยนแปลงไปแน่นอนแล้ว
จอห์น ล็อกส์ดอน ผู้ก่อตั้งและเป็นอดีตผู้อำนวยการสถาบันนโยบายกิจการอวกาศ ประจำมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ยืนยันว่า คงจำเป็นต้องรอผลการตรวจสอบอุบัติเหตุของนาซาและสเปซเอ็กซ์ออกมาก่อนจึงสามารถบอกได้แน่ชัดว่าจะกระทบต่อแผนงานมากน้อยแค่ไหนอย่างไร แต่อุบัติเหตุทำนองนี้เกิดขึ้นได้และเคยเกิดขึ้นมากับโครงการอวกาศทั้งหลายในอดีตมาแล้ว
ที่สำคัญก็คือ นาซายังคงมีคู่สัญญาสำรองอีกบริษัทนั่นคือโบอิ้ง ที่คาดว่าจะสามารถทดสอบการบินเครื่อง ซีเอสที-100 สตาร์ไลเนอร์ ไปเชื่อมต่อกับไอเอสเอสได้ในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย
