“น้ำตาสีน้ำเงิน” เป็นพิษและกำลังขยายตัว

(ภาพ-WanRu Chen/Getty Image)

ทะเลบริเวณรอบเกาะมัตซู หรือเกาะหม่าจู ของไต้หวัน มักเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเรืองแสงในหน้าร้อน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “บลูเทียร์” หรือ “น้ำตาสีน้ำเงิน”

ในความเป็นจริงแล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากการสะสมเพิ่มมากขึ้นของสาหร่ายเซลล์เดียวเรืองแสงในตัวเอง มีชื่อเรียกว่า “ไดโนแฟลกเจลเลต” ซึ่งถึงแม้จะเป็นที่นิยมและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศจีนให้มาชมได้ แต่มีความเป็นพิษสูงอยู่ในตัวมันอีกด้วย

หู ฉานหมิน นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากมหาวิทยาลัยเซาธ์ฟลอริดา กับทีมวิจัยระบุว่า ในความคิดของคนทั่วไป “ไดโนแฟลกเจลเลต” ดูแล้วโรแมนติกดีโดยเฉพาะในตอนกลางคืน แต่จริงๆ แล้วมันมีพิษสูงมาก เป็นอันตรายต่อชีวิตทางทะเลในบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่ปลาใหญ่น้อยไปจนถึงเต่าทะเลทั้งหลายที่อาจถึงตาย แม้แต่มนุษย์ยังอาจถึงขั้นล้มป่วยได้

ตัว “ไดโนแฟลกเจลเลต” เองไม่ได้มีพิษ แต่อาหารโปรดของมันคือสาหร่ายพิษ ซึ่งเมื่อมันกินสาหร่ายพิษดังกล่าวเข้าไป จะปล่อยแอมโมเนียและสารเคมีอื่นๆ ออกมาทำให้น้ำทะเลโดยรอบเป็นพิษตามไปด้วย นอกจากนั้น “ไดโนแฟลกเจลเลต” ยังใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโตและดึงเอาออกซิเจนออกจากน้ำในบริเวณที่รวมตัวกันอยู่ไปใช้จนหมด ทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นในบริเวณนั้นล้มตายได้อีกด้วย

Advertisement

ทีมวิจัยของหู ตรวจสอบภาพถ่ายผ่านดาวเทียมมากกว่า 1,000 ภาพในช่วงระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา พบว่าปริมาณของบลูเทียร์ซึ่งเดิมมักพบเพียงบริเวณใกล้ชายฝั่ง กำลังขยายออกไปครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับทะเลลึก แม้ว่ายังไม่แน่ชัดนักว่าสาเหตุของการขยายตัวคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลจีนตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ นี้เกิดจากอะไร แต่ทีมวิจัยเชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากมลภาวะที่ถูกปล่อยทิ้งลงมาตามแม่น้ำแยงซี ลงสู่ทะเลจีนตะวันออก

โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีที่ถูกชะมากับน้ำ ทำให้ปริมาณของ “ไดโนแฟลกเจลเลต” เจริญเติบโตมากผิดปกตินั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image