‘อีเบย์’ ปั้นทักษะค้าปลีกออนไลน์ หนุนผู้ขายคนไทยสู่ความสำเร็จระดับโลก

อีเบย์ (eBay) ผู้นำด้านอี-คอมเมิร์ซระดับโลก เผยแผนธุรกิจมุ่งเสริมศักยภาพผู้ขายคนไทย ขยายธุรกิจและประสบความสำเร็จในการค้าปลีกออนไลน์บนอีเบย์ กับโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้ออีเบย์กว่า 180 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลก ด้วยแผนกลยุทธ์แบบบูรณาการของอีเบย์เพื่อการพัฒนาทักษะผู้ขายไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน กับโอกาสทองสู่เป้าหมายความสำเร็จในตลาดออนไลน์ระดับโลกให้ทวีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นางเจนนี หุย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเบย์ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกงและไต้หวัน กล่าวว่า “การค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศ (Cross Border Trade: CBT) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดอี-คอมเมิร์ซทั่วโลกทั้งหมดถึงร้อยละ 20 ภายในปี 2565 เอเชียแปซิฟิกจะขึ้นแท่นเป็นภูมิภาคที่มีการค้าปลีกส่งออกข้ามประเทศใหญ่ที่สุดในตลาดอี-คอมเมิร์ซ ทั้งด้านการนำเข้าและส่งออก ในปี 2561 ตลาดอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวม 23.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตสู่มูลค่า 102 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้ภายในปี 2568 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอี-คอมเมิร์ซระดับโลก อีเบย์จึงมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ อีเบย์มุ่งเน้นที่แผนกลยุทธ์แบบบูรณาการเพื่อหนุนผู้ประกอบการไทยทุกขนาดให้สามารถเติบโตได้ในการค้าปลีกออนไลน์ระดับโลกบนอีเบย์ กับโครงการหลากหลายรูปแบบที่เน้นการปั้นทักษะค้าปลีกออนไลน์ ส่งเสริมศักยภาพผู้ขายไทยให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป”

“แพลตฟอร์มของอีเบย์ช่วยเชื่อมโยงผู้ประกอบการธุรกิจไทยทุกขนาดกับผู้ซื้ออีเบย์กว่า 180 ล้านคน ใน 190 ประเทศทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ อีเบย์เล็งเห็นศักยภาพของการค้าปลีกส่งออก ที่จะสร้างโอกาสทองให้ผู้ขายคนไทยเลือกสรรสินค้าหลากหลายซึ่งผลิตในเมืองไทยและได้รับการยอมรับในตลาดโลกว่าเป็นสินค้าคุณภาพดี มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ มาส่งออกสู่ตลาดโลกบนอีเบย์ โดยสินค้ายอดฮิต 5 กลุ่มหลักที่ผู้ขายอีเบย์คนไทยนิยมส่งออก คือ จิวเวลรี (อัญมณี เครื่องประดับเพชรพลอย) สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าตกแต่งบ้าน ของสะสม และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้ากลุ่มจิวเวลรีที่มีความต้องการซื้อสูงจากลูกค้าทั่วโลก โดยสินค้ากว่าร้อยละ 50 ของผู้ขายอีเบย์คนไทยส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุด ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เยอรมนี และรัสเซีย” นางเจนนี หุย กล่าว

โดยอีเบย์มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้แก่ผู้ขายไทยในทุกขนาด ด้วยโครงการและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีแผนการดำเนินงานระยะ 2-3 ปี ได้แก่ โครงการฝึกอบรมผู้ขายเพื่อปั้นทักษะการค้าปลีกออนไลน์ ที่มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ โครงการ “eBay Boot Camp” ซึ่งเป็นการติวเข้ม 3 เดือน เน้นการเสริมทักษะค้าปลีกออนไลน์ให้ผู้ขายสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะขายบนอีเบย์มานานเท่าใด โดยมีการจัดขึ้นต่อเนื่องมาแล้วถึง 2 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ขายไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปแบบเอ็กซ์คลูซีฟทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะให้ผู้ขายสามารถเพิ่มยอดขายได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ อีเบย์มีแผนที่จะจัดกิจกรรมใหญ่ “eBay Seller Summit” เพื่อฉลองครบรอบ 24 ปี ของอีเบย์ในเดือนกันยายนนี้

Advertisement

โค้ชการทำธุรกิจโดยทีมที่ปรึกษาจากอีเบย์ (Business Coaching by Account Managers) เน้นในการช่วยวางแผนธุรกิจ เสริมจุดแข็ง แก้ไขจุดอ่อน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขายมืออาชีพสามารถต่อยอดธุรกิจบนอีเบย์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสู้ศึกกับผู้ขายนานาชาติในการค้าปลีกส่งออกได้อย่างไม่เป็นรองใคร

สนับสนุนการทำธุรกิจด้วยการใช้โปรแกรมไอที (IT automation) ใช้แอพพลิเคชั่นช่วยจัดการร้านค้าอีเบย์สโตร์ (eBay Stores) และช่วยบริหารงานทั้งหน้าร้านและหลังร้าน รวมถึงบริหารสินค้าคงคลัง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ

สร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีโดยเชื่อมต่อ API กับบริษัทโลจิกติกส์ชั้นนำ ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย ดีเอชแอล อี-คอมเมิร์ซ ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ด้วยโปรแกรมชิปปิ้ง “อีเบย์ ซีพาส” (eBay SEAPaSS) แพลตฟอร์มการจัดส่งสินค้าแบบครบวงจร ซึ่งได้เปิดให้บริการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่กลางปี 2561 โดยมีผู้ใช้งานมากมายในเมืองใหญ่ๆ ทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยมีผู้ใช้งานโปรแกรมชิปปิ้ง “อีเบย์ ซีพาส” ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ประมาณร้อยละ 70 ส่วนผู้ใช้งานอีกร้อยละ 20 กระจายตัวอยู่ในเชียงใหม่และภาคเหนือ และอีกร้อยละ 10 อยู่ในภาคตะวันตก ภาคใต้ และภาคอีสาน

Advertisement

จับมือกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ไทย ในการร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นช่วยบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อรองรับการบริหารจัดการร้าน โดยเน้นให้ผู้ขายสามารถสร้างรายการสินค้าบนอีเบย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบริหารออเดอร์สินค้าสำหรับหลายร้าน การบริหารสต๊อกสินค้าและจัดการขนส่งโลจิสติกส์แบบค้าปลีกออนไลน์ข้ามประเทศ รวมไปจนถึงการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ ดูแลลูกค้าในต่างประเทศด้วยมาตรฐานที่ดี

โครงการพัฒนาธุรกิจ ได้เน้นไปที่อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์เป็นหลักในรูปแบบกิจกรรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาโครงการ

ทั้งหมดนี้ เนื่องมาจากอีเบย์เล็งเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านสินค้าซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอยู่มาก ทั้งสินค้างานฝีมือที่สวยงาม เช่น จิวเวลรี เครื่องประดับ และสินค้าที่เน้นการออกแบบเชิงอุตสาหกรรม เช่น ของแต่งบ้านและสวน รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ

“ในทุกวันนี้ ผู้บริโภคทั่วโลกต่างคาดหวังการบริการระดับธุรกิจค้าปลีกที่ได้มาตรฐานและรวดเร็วทันใจ อีเบย์จึงได้ลงทุนสานต่อด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มฟีเจอร์ต่างๆ แบบรู้ใจผู้ซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ พร้อมช่วยให้ผู้ขายเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ง่ายๆ บนอีเบย์ และสามารถขยายธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ด้วยโครงการต่างๆ ที่อีเบย์มอบโอกาสให้ผู้ขายไทย เพื่อเสริมศักยภาพในการค้าปลีกส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นางเจนนี หุย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image