จำนวนนกในสหรัฐอเมริกา ลดลง 3,000 ล้านตัว

(AP Photo/David Zalubowski, File)

ทีมวิจัยนำโดย ศาสตราจารย์ เคนเนธ โรเซนเบิร์ก นักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัย คอร์เนลล์ สหรัฐอเมริกา ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการ ไซนซ์ เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 50 ปี จำนวนนกในสภาพธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาลดลงจากที่เคยมีอยู่ราว 10,100 ล้านตัว เหลือเพียง 7,200 ล้านตัวเท่านั้น หายไปเกือบ 3,000 ล้านตัว

ศาสตราจารย์โรเซนเบิร์กระบุว่า สิ่งที่น่าตกใจที่สุดที่ได้จากผลการวิจัยครั้งนี้ก็คือ การหายไปนี้เกิดขึ้นได้ต่อหน้าต่อตาทุกๆ คน โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำ

ศาสตราจารย์โรเซนเบิร์ก และทีมวิจัย ประเมินการหายไปดังกล่าวจากข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศ ซึ่งบันทึกการอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นตามฤดูกาลของนก, การวิเคราะห์ข้อมูลการสำรวจปริมาณนก 13 ฉบับย้อนกลับไปจนถึงเมื่อปี 1970 และการใช้แบบจำลองในคอมพิวเตอร์เพื่อประเมินแนวโน้มของประชากรนก 529 ชนิดที่พบทั่วไปในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ใช่ชนิดของนกทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา แต่ที่ไม่ได้นำมานับรวมด้วยนั้นเป็นชนิดที่หายากอยู่แต่เดิมแล้ว

การใช้ข้อมูลเรดาร์ตรวจอากาศถือเป็นวิธีใหม่ในการศึกษาวิจัยเพื่อประเมินจำนวนนกที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก

Advertisement

ตามข้อมูลที่ได้ โรเซนเบิร์กพบว่านกที่พบเห็นกันทั่วไปและจดจำกันได้คือนกชนิดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูญพันธุ์ไปก็ตาม เช่น นกกระจอกบ้าน หายไปมากที่สุด เช่นเดียวกับนกกระจอกสายพันธุ์อื่นๆ

ประชากรของนก มีโดว์ลาร์คตะวันออก ลดลงมากกว่า 3 ใน 4 มากพอๆ กับผลกระทบที่เกิดกับมีโดว์ลาร์คตะวันตก

นกบ็อบไวท์เควล จำนวนลดลงมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยมี นกที่หากินตามทุ่งหญ้าทั่วไปลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งของที่เคยมี

Advertisement

มีแต่บลูเบิร์ดเท่านั้นที่เพิ่มจำนวนขึ้นเล็กน้อย เหตุผลสำคัญคือทุกคนพยายามจะอนุรักษ์มันอย่างมากนั่นเอง

สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรนกลดลงอย่างน่าใจหายก็คือ การสูญเสียพื้นที่สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย รองลงมาเป็นเพราะมีสัตว์นักล่าที่จับนกกินเป็นอาหาร งานวิจัยเมื่อปี 2015 ระบุว่า แมวฆ่านกไปปี

หนึ่งๆ มากถึง 2,600 ล้านตัว ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่หน้าต่างกรุกระจก ทำให้นกตายปีละ 624 ล้านตัว ชนเข้ากับรถยนต์อีกปีละ 214 ล้านตัว

มาร์กาเร็ต รูเบกา ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคอนเนกติกัตซึ่งเป็นนักปักษีวิทยาผู้เชี่ยวชาญประจำรัฐคอนเนกติกัต ให้ความเห็นต่อความสำคัญเรื่องนี้เอาไว้น่าสนใจมากว่า

รูเบกาเปรียบเปรยว่า ถ้าวันหนึ่งเราตื่นเช้าขึ้นมาแล้วพบว่า เพื่อนบ้านราว 1 ใน 3 ในย่านที่เราพักอาศัยอยู่หายไป เราคงต้องสรุปความได้ว่าเกิดภัยคุกคามอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาแน่นอน

กรณีนี้ก็คือการหายไปของนกในย่านที่อยู่อาศัยของเรามากถึง 3,000 ล้านตัว เป็นนกที่เคยจิกกินพวกแมลงต่างๆ ที่เคยเป็นตัวการทำลายพืชอาหารของเรา เป็นพาหะนำโรคร้ายมาให้กับเรา

“ฉันคิดว่าเราควรคำนึงถึงการหายตัวไปครั้งนี้ว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญในทำนองเดียวกัน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image