5G Private Networks ถึงเวลาที่เอเชียจะทรานส์ฟอร์ม

5G Private Networks ถึงเวลาที่เอเชียจะทรานส์ฟอร์ม

Mavenir บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับเครือข่าย (Network Software Provider) สร้างอนาคตของระบบเครือข่ายด้วยซอฟต์แวร์ Mavenir มีเป้าหมายในการสร้างอนาคตของระบบเครือข่ายและเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยมุ่งเน้นไปที่วิสัยทัศน์ของเครือข่ายอัตโนมัติแบบซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนคลาวด์ใดๆ ก็ได้ ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เครือข่ายแบบคลาวด์เนทีฟครบวงจรรายเดียวในอุตสาหกรรม Mavenir มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงวิธีการเชื่อมต่อของโลก เร่งการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายด้วยซอฟต์แวร์สำหรับผู้ให้บริการการสื่อสารมากกว่า 250 รายในกว่า 120 ประเทศ ซึ่งให้บริการมากกว่า 50% ของผู้ใช้บริการทั่วโลก

โดยในการสัมมนาผ่านออนไลน์ ของ Mavenir เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เรื่อง “เครือข่ายส่วนตัวในองค์กรบนระบบ 5G จะมีบทบาทเปลี่ยนแปลงภูมิภาคเอเชียได้อย่างไร” โดยมีผู้บริหารของ Mavenir มาร่วมให้ข้อมูล ดังนี้

จุดแข็งของเทคโนโลยี
ทั้งนี้ Mavenir เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับระบบเครือข่ายที่ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเครือข่ายส่วนตัวของการสื่อสารเคลื่อนที่ไปสู่สภาพแวดล้อมเสมือนจริงได้โดยสมบูรณ์ โดยที่อุปกรณ์ แอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ทำงานบนเครือข่ายแบบอัตโนมัติโดยอาศัยสถาปัตยกรรมแบบเปิด, คอนเทนเนอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบเชื่อมสัญญาณวิทยุระบบเปิด (5G Open RAN) แบบครบวงจรของ Mavenir เลือกใช้ช่วงคลื่นความถี่วิทยุระดับ mmWave และเสริมแกนกลางระบบสื่อสารของเทคโนโลยี 5G ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี Open API ซึ่งทำงานผสานกับโซลูชันแบบคลาวด์เนทีฟที่รองรับการทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นระบบจัดการเครือข่ายส่วนตัวบนระบบเดิม เป็นพื้นฐานหลักของความเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ อาทิ การจราจร ความปลอดภัยสาธารณะ ป้ายดิจิทัล และสภาพแวดล้อมที่มีความละเอียดอ่อน เป็นต้น

Advertisement

Mavenir มองว่า ปัจจัยผลักดันการเติบโต ของ Private Network ในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่

1. การรักษาความปลอดภัย (Security)
ข้อมูลต่างที่มีกระจายอยู่นั้นถือเป็นอาวุธกลับมาทำร้ายองค์กร ทำร้ายหน่วยงานของรัฐ กลุ่มอุตสาหกรรม และประชาชนรายบุคคลต่างๆได้ ระบบเครือข่ายส่วนตัว Private Network จะเป็นระบบเครือข่ายที่มีความเป็นส่วนตัว เป็นที่เฉพาะขององค์กร และมีการบริหารจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย อีกทั้งยังใช้วิธีการลดความเสี่ยงต่อการถูกคุกคามทางไซเบอร์ จากทั้งภายนอกและภายในได้ครบถ้วนทุกประการอีกด้วย

2. ประสิทธิผลในการทำงาน (Productivity)
หลายครั้งที่ประสิทธิผลผลผลิตของงานมักจะถูกตีกรอบด้วยเครื่องมือและขั้นตอนในการปฏิบัติงานที่ไม่เอื้ออำนวย มีการติดขัดบ่อยครั้ง ระบบเครือข่ายส่วนตัว Private Network สามารถสร้างให้เกิดสมรรถนะแก่การสื่อสาร ด้วยการเชื่อมต่อที่ได้คุณภาพ ความรวดเร็วลื่นไหล และขยายขนาดของสัญญาณการสื่อสารได้ถึง 10 เท่าตัว ดังนั้นการนำเอา M2M platform มาใช้งานนั้นจะลดขั้นตอนกระบวนการปฏิบัติงานต่างๆ ที่เคยยุ่งยากมากมายลงไปได้อย่างชัดเจน

Advertisement

3. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Safety)

เราต่างตกอยู่ในความเสี่ยงกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือ ชีวิตส่วนตัว ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเราได้ ระบบเครือข่ายส่วนตัว Private Network สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ส่งเข้ามาจากระบบนิเวศที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่บนระบบเครือข่ายได้ และพิจารณาว่าจะตอบสนองต่อข้อมูลที่วิเคราะห์เหล่านั้นอย่างไร จึงสามารถที่จะป้องกันประชากรที่เครือข่ายนั้นให้รอดพ้นจากความเสี่ยงทั้งทางสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้

4. ชุมชน (Community)

เทคโนโลยีที่เหมาะสมมีส่วนช่วยสังคมมนุษย์ในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตได้ เครือข่ายของการสื่อสารระหว่างกันนั้นเป็นการช่วยส่งเสริมเรืองของการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ระบบเครือข่ายส่วนตัว Private Network เป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวก มีเครื่องมือ และมีข้อมูลมากมายเพื่อรองรับชุมชนที่ต้องการรวมตัวกันเพื่อยกระดับคุณภาพของสังคม เข้าถึงสวัสดิการของความเป็นอยู่ของชุมชนร่วมกัน

ตลาดเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ สำหรับการใช้ Private Network

ที่อยู่อาศัย อาคารธุรกิจ กลุ่มอาคารอุตสาหกรรม /ยานพาหนะต่างๆส่วนบุคคล กลุ่มโลจิสติกส์ รถสาธารณะ/เมืองที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 100,000คน ฐานทัพ/ ประเทศที่กำลังพัฒนา/โรงกรองน้ำประปาสำหรับการสาธารณูปโภค /โรงพยาบาล / ดาต้าเซ็นเตอร์ /โกดังสินค้าประเภทต่างๆ /โรงงาน (ที่มีคนไม่ถึง 100คน) ฟาร์มการเกษตร กสิกรรม (ที่มีพื้นที่ 50 กว่า เฮกตาร์)/สถานีขุดเจาะน้ำมัน /การทำเหมือง

เอเชียแปซิฟิกต่างจากตลาดอื่นอย่างไร

• ภายในปี 2030 เมืองใหญ่หรือ World’s Mega cities จะอยู่ในเอเชียแปซิฟิกกว่า 50%
• Digital Health ในเอเชียแปซิฟิกระหว่างปี 2020 และ 2026 จะเป็น 32% CAGR
• 43% ของระบบการผลิตต่างๆอยู่ที่เอเชียแปซิฟิก

ฉะนั้น ระบบเครือข่ายส่วนตัวจะมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจและกลุ่มประชากรในเอเชียแปซิฟิก อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาแรงงานต้องหันมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการแข่งขันในเศรษฐกิจขั้นก้าวหน้า ประชาชากรสูงอายุหรือ aging population จะลดการใช้แรงงานลง แต่จะเพิ่มความต้องการด้านสุขอนามัย การเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นกับเครือข่ายข้อมูลที่บูรณาการกันทุกระดับชั้นของทางหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด

Mavenir นำมาใช้งานแล้ว 3 โครงการหลักในประเทศไทย

Smart City บ้านฉาง ระยอง : Mavenir เป็นเบื้องหลังสมาร์ทซิตี้แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยระบบผสานเทคโนโลยี 5G แบบเปิดบนเครือข่ายส่วนตัวระดับ mmWave เทคโนโลยีเครือข่ายส่วนตัวบนเครือข่าย 5G ตั้งแต่ต้นสู่ปลายทางพร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อสัญญาณวิทยุระบบเปิด (Open RAN) เป็นเครือข่ายที่พร้อมเข้าถึงคลาวด์บน5G ที่พร้อมให้อุปกรณ์และแอปพลิเคชั่นสามารถทำงานร่วมกัน รวมถึงวิเคราะห์และประสานให้กลายเป็นระบบนิเวศเดียวกัน บ้านฉางจะกลายเป็นเมืองอัจฉริยะภายใต้ชื่อ “เมืองชายหาดแห่งเทคโนโลยี”

นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง : ใช้ 5G Open RAN mmWave Private Network เพิ่มคุณภาพของการผลิตโดยการปรับปรุงในประสิทธิภาพความสามารถด้านโลจิสติกส์และการควบคุมคุณภาพระบบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่มีอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพิ่มเทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ ด้วยกล้อง UHD และ AGV

ความปลอดภัยจังหวัดทางภาคเหนือของไทย : หน้าที่ของทหารไทยมีหน้าที่ปกป้องประเทศมีพรมแดนติดจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการลักลอบขนยาเสพติดและมนุษย์ การค้ามนุษย์. การเฝ้าระวังชายแดนภูมิภาคต้องใช้วิธีการใหม่ในการตรวจจับ การเคลื่อนไหวข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์
(การเฝ้าระวังชายแดนตลอดเวลาผ่านทางภาพถ่ายทางอากาศ แบบเรียลไทม์วิเคราะห์วิดิโอ จับภาพใบหน้าและระบุตัวตน)

Aniruddho BasuSenior Senior Vice President Emerging BusinessMavenir กล่าวว่า “5G คือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เราจะได้เห็นเมืองทั้งเมืองเชื่อมต่อกับการใช้งานด้วยซีรีส์ของแอปพลิเคชั่นบนเครือข่าย 5G ที่ทำงานคู่ขนานกันไป การเชื่อมต่อผู้คน, ชุมชน, บริการต่างจากทางภาครัฐ และภาคเอกชน กลายเป็นโครงสร้างที่นำไปสู่ Smart City ปลดพันธนาการ และจะเปลี่ยนชีวิตทุกชีวิต เปลี่ยนอุตสาหกรรม เปลี่ยนสังคมและเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

Ben PatulloVice Vice President Sales ASEAN Mavenir กล่าวว่า “นี่คือ Digital Evolution อย่างแท้จริง 5G จะเข้ามามีอิทธิพลกับทุกชีวิตมนุษย์และทุกภาคส่วนมากขึ้น และจะไม่มีพื้นที่ใดถูกทอดทิ้งไม่ว่าจะห่างไกลแค่ไหน 5G จะสามารถนำชีวิตที่ดีให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม”

Norman Donald Price, Norman Donald Price Global CTO Emerging Business Mavenir กล่าวว่า “การมาถึงของยุค 5G จะนำมาซึ่งประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญหน้ากับโรคระบาด ทำให้เป็นถึงคุณค่าและความจำเป็นของ 5G เทคโนโลยีถูกนำมาช่วยแก้ไขวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทุกๆด้าน ทั้งชีวิตประจำวันและการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป และจะเป็นปัจจัยหลักสำคัญของโลกที่จะอยู่กับเรานับตั้งแต่บัดนี้ตลอดไปแม้โรคระบาดคลี่คลายก็ตาม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image