ออราเคิล อัพเดตแอพพ์ Oracle Cloud Fusion ยกระดับองค์ธุรกิจไทย สู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ

ออราเคิล อัพเดตแอพพลิเคชั่น Oracle Cloud Fusion ยกระดับองค์ธุรกิจไทย สู่โลกดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ

ออราเคิลประกาศอัปเดตโซลูชั่นด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร Oracle Fusion Cloud Enterprise Resource Planning (ERP) และโซลูชันซัพพลายเชน Oracle Fusion Cloud Supply Chain & Manufacturing (SCM) สำหรับการอัปเดต Oracle Cloud ERP นั้นจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้า ในการสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจรูปแบบใหม่ผ่านระบบการทำงานแบบไร้สัมผัส ยกระดับประสบการณ์การทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น และยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนได้อย่างชัดเจน ออราเคิลยังได้นำเสนอการอัปเดตระบบอีกมากมายสำหรับระบบจัดซื้อ Oracle Fusion Cloud Procurement ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในโซลูชั่น Oracle Cloud SCM

จากคำแนะนำนับร้อยของลูกค้า ออราเคิลนำแนวคิดจากผู้ใช้งานจริงเพื่อการพัฒนาและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยกระดับการทำธุรกิจของลูกค้าจากการใช้นวัตกรรมของออราเคิล ถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

อีกทั้งออราเคิลยังคงมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมอีกมากมายในโซลูชั่น Oracle Cloud ERP พร้อมการอัปเดตแอปพลิเคชัน

Advertisement
  • การบริหารการทำงานอัจฉริยะ ยกระดับระบบการเลียนแบบเครื่องจักรกล ช่วยให้ทีมการเงินสามารถนำรูปแบบระบบการเลียนแบบเครื่องจักรกลมาจากแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานได้ เช่น แผนการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ฐานข้อมูลประวัติ หรือแผนการบริหารข้อมูลการดำเนินงานอื่นๆ นอกเหนือจากด้านการเงิน สามารถนำมาใช้งานได้ในโซลูชั่น Oracle Cloud EPM ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้โซลูชันสามารถยืนยันความถูกต้องและนำข้อมูลมาเสริมในแผนงานต่าง ๆ ทั้งยังช่วยสร้างการตัดสินใจจากข้อมูลที่แม่นยำ และคาดการณ์โอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ทักษะการรายงานด้านบัญชีการเงินของ Oracle Digital Assistant: ช่วยให้ทีมการเงินสามารถบริหารจัดการด้านการบันทึกรายการก่อนตัดบัญชี การจัดทำงบการเงิน และขั้นตอนการปิดงบได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Oracle Digital Assistant ผู้ใช้งานจึงสามารถมองเห็นภาพรวมข้อมูลด้านประสิทธิภาพองค์กรของตนเองได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ผ่านการตั้งคำถามง่าย ๆ เช่น “อะไรคือยอดก่อนตัดบัญชีในวันนี้?”
  • ขั้นตอนและการแสดงผลการบริหารความเสี่ยงรูปแบบใหม่ของออราเคิล: ช่วยให้สามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านการวิเคราะห์รายการ และธุรกรรมของผู้ใช้งานด้วยพลังการประมวลผลของ AI กระบวนการประเมินความเสี่ยงอัตโนมัติ และระบบควบคุมที่ติดตั้งมาให้พร้อมทำงานอย่างฉับไวเพื่อให้ทันต่อการคุกคามด้านความมั่นคง ด้วยระบบแสดงผลการบริหารความเสี่ยงของออราเคิล Oracle Risk Management จะช่วยยกระดับการรับรู้ถึงความเสี่ยง การประสานงาน และการควบคุมดูแลของฝ่ายบริหาร เพื่อให้องค์กรมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
  • การรวมการวางแผน การตั้งงบประมาณ และการดำเนินงาน: ตัวช่วยรับประกันแผนและดำเนินงานในโปรเจคต่างๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย และกลยุทธ์ขององค์กร เช่น ผู้ใช้สามารถนำเสนอโครงการใน Oracle Cloud EPM และส่งตรงเข้าไปยังระบบการบริหารจัดการโครงการของออราเคิล Oracle Project Management เพื่อเริ่มดำเนินการ หรือจัดสรรการควบคุม และการอนุมัติงบประมาณได้อย่างง่ายดาย ด้วยโซลูชั่นเดียวและด้วยระบบการดำเนินธุรกิจที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดของโปรเจค ทำให้ดำเนินการได้รวดเร็ว เอื้อต่อการกำหนดแนวทางองค์กรให้สอดคล้องกับภาพรวมทั้งหมด

Oracle Procurement ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและลดต้นทุน

  • การแยกรายการจ่าย (Spend Classification): ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโซลูชัน Oracle Procurement จะช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อมีความเข้าใจถึงรูปแบบรายการจ่ายขององค์กร และเห็นภาพรวมรายการจัดซื้อได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงการแยกรายการจ่ายเป็นหมวดหมู่ต่างๆ อย่างเหมาะสม ช่วยลดภาระงานที่ต้องใช้แรงงานและลดปัญหาข้อผิดพลาดที่เกิดจากคนทำงาน ผ่านการใช้ระบบ Machine Learning
  • ระบบบริหารซัพพลายเออร์อัจฉริยะ (DataFox Supplier Intelligence): ด้วย AI บน Oracle DataFox Data Management จะทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติซัพพลายเออร์ และข้อมูลตัวชี้วัดความเสี่ยงที่เป็นปัจจุบันได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ลูกค้าสามารถยืนยันความถูกต้องข้อมูลซัพพลายเออร์ที่มีการทำงานร่วมกัน และติดตามข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ สถานะทำงานผ่านระบบแจ้งเตือน รวมถึงประเมิณคะแนนชี้วัดความเสี่ยงในการทำงานของซัพพลายเออร์
  • การบริหารคุณสมบัติซัพพลายเออร์ (Supplier Qualification Management): การอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าประเมินซัพพลายเออร์ได้อย่างครอบคลุม หุ้นส่วนองค์กรสามารถให้ข้อเสนอเพิ่มเติม และสำรวจข้อมูลจากซัพพลายเออร์ และช่วยตรวจสอบคุณสมบัติซัพพลายเออร์ ให้ลูกค้าสามารถทำการประเมินขีดความสามารถของซัพพลายเออร์ และความเสี่ยงต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบและแม่นยำ
  • ระบบห่วงโซ่อุปทานตามลักษณะโครงการ (Project-Driven Supply Chain): ตัวช่วยสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ต้นทุนสูง เช่น ภาคอุตสาหกรรมผลิต สามารถควบคุมความเสี่ยงของโปรเจคพร้อมระบบการวางแผน การดำเนินงาน และการตรวจสอบแบบครบวงจร ระบบซัพพลายเชนตามลักษณะโครงการ ช่วยให้ลูกค้าสามารถรวบรวมสรุปข้อมูล ออกใบเสร็จ และจัดหาเงินทุนสำหรับวัตถุดิบ การผลิต และการบำรุงรักษาตามลักษณะโครงการได้

นางวัลลภา เปี่ยมนพเก้า ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศ และผู้อำนวยการฝ่ายแอปพลิเคชัน ออราเคิล คอร์ปอเรชัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปัจจุบันนี้องค์กรธุรกิจในประเทศแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยกำลังเร่งปรับตัวการใช้งานระบบคลาวด์ และมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงเร่งคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ให้ทัดเทียมกับตลาดโลก ในฐานะผู้ให้บริกาด้านซอฟต์แวร์ Software as a Service (SaaS) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโลก ออราเคิลมีการคิดค้นนวัตกรรมที่รวดเร็วอย่างสม่ำเสมอ โดยลูกค้าผู้ใช้แอปพลิเคชัน Oracle Fusion Cloud Applications มากกว่า 13,000 องค์กรธุรกิจ จะได้ใช้งานเวอร์ชันเดียวกันและเข้าถึงความสามารถและฟีเจอร์การทำงานทั้งหมด โดยสามารถเปิดการใช้งานได้เอง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ Oracle Cloud Applications เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นในตลาด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image