คอลัมน์ TasteTest : ไอแพด มินิ รุ่น 6 กับปุ่มโฮมที่หายไป และการใช้เพนซิลได้
แอปเปิล เปิดตัว ไอแพด มินิ (iPad mini) รุ่น 6 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เว้นระยะห่างจากไอแพด มินิ รุ่นก่อนราว 2 ปี โดยไอแพด มินิ 6 นี้ มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 8.3 นิ้ว รุ่นเดิมอยู่ที่ 7.9 นิ้ว ก็คือ จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะ “ปุ่มโฮม” ที่หายไป ทำให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น
แต่เอาจริงๆ ดูโดยรวม ไม่ได้ใหญ่กว่าเดิมมากมายนัก เพราะยังสามารถจับได้อย่างถนัดมืออยู่ ตามสไตล์ของไอแพด มินิ แต่จริงๆแล้ว น้ำหนักของตัวเครื่อง กลับเบาลงนิดหน่อยด้วยซ้ำ เพราะตัวรุ่น 6 นี้ น้ำหนัก 293 กรัม ส่วนรุ่น 5 อยู่ที่ 300.5 กรัม
เมื่อปุ่มโฮมหายไปแล้วจะปลดล็อกด้วยอะไร?? คำตอบคือ แอปเปิล ได้ย้ายปุ่มปลดล็อกด้วยระบบสัมผัสนี้ ไปไว้ที่ปุ่มเปิดปิดเครื่องด้านบนของเครื่อง ที่เคยทำมาแล้วในไอแพดรุ่นอื่นๆ ตอนนี้ ก็เรียกว่า ถึงคิวของไอแพด มินิ เสียที ที่จะได้ปลดล็อกจากปุ่มด้านบนเครื่อง
อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อน คือการใช้ชิป เอ15 ไบโอนิก ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ไอแพด มินิ 6 นี้ ใช้พอร์ต-ซี แล้ว ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนอีกอย่าง จากเดิมที่เป็นพอร์ต ไลท์นิ่ง ซึ่งการใช้พอร์ต-ซี นี้ ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5Gbps ที่ถือว่าเร็วกว่ารุ่นก่อนๆถึง 10 เท่าเลยทีเดียว และแน่นอว่า เมื่อใช้พอร์ต-ซี ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้พอร์ต-ซี ได้อย่างง่ายดาย เพราะสายที่ให้มา จะเป็น พอร์ต-ซี ที่ปลายทั้งสองด้าน
นอกเหนือไปจากการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยไวไฟแล้ว ก็ยังมีรุ่นที่เป็นเซลลูลาร์ รองรับการใช้งาน 5จี ด้วย แถมยังรองรับการใช้งานอีซิมด้วย
ในส่วนของกล้องนั้น กล้องหลังและหน้า มีความละเอียดเท่ากันคือ 12 ล้านพิกเซล จุดเด่นของกล้องที่ให้มา คือคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ซึ่งน่าจะเป็นคุณสมบัติที่บรรดายูทูบเบอร์ หรือบรรดาผู้ชอบอัดคลิปทั้งหลายชื่นชอบ หลังจากที่เคยมีอยู่แต่ในไอแพด โปร ตอนนี้ ก็มาอยู่ในรุ่นมินิแล้ว
สำหรับจัดให้อยู่ตรงกลาง ก็คิดง่ายๆว่า เราอยู่คนเดียว แล้วตั้งกล้องเอาไว้ แต่เราอยากให้กล้อง หมุนตามเราไป เวลาเราเดินไปไหนมาไหนตามมุมต่างๆของห้อง หรือของสถานที่ แต่เราไม่มีตัวช่วย
กล้องของไอแพด มินิ รุ่นนี้ช่วยคุณได้ เพราะมันจะปรับโฟกัสไปที่ตัวเราอยู่ตลอดเวลาโดยอัตโนมัติ หรือถ้ามีคนอื่นเข้ามาร่วมด้วย กล้องก็จะตรวจจับได้แล้วซูมออกอย่างลื่นไหล ทำให้เก็บภาพของทุกคนได้ครบครันและชัดเจน
อีกอย่างที่โดดเด่นสำหรับไอแพด มินิ 6 นี้ก็คือ การรองรับการใช้งาน แอปเปิล เพนซิล รุ่น 2 ได้แล้ว คือเรียกได้ว่า เป็นความดีงามอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้การทำงานของไอแพด มินิ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยแอปเปิล เพนซิล รุ่น 2 ที่ใช้ร่วมกันนี้ สามารถที่จะแปะเข้าไปที่ด้านบนของตัวเครื่องได้ เพื่อการเชื่อมต่อด้วยกันหรือเพื่อการชาร์จ และเป็นการเก็บแอปเปิล เพนซิล ไปในตัว
เพียงแต่ แอปเปิล เพนซิล นี้ เราต้องซื้อแยกต่างหาก ในราคาประมาณสี่พันกว่าบาท
ทีนี้เราก็เริ่มการขีดๆเขียนๆสไตล์ไอแพด มินิ กับแอปเปิล เพนซิล ได้อย่างสนุกสนาน ด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆมากมาย หรือถ้าไม่พอใจ ก็ไปหาแอพพ์โหลดมาเล่นเพิ่ม โดยเฉพาะเมื่อใช้กับชิป เอ15 ไบโอนิก ก็ยิ่งทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องของการประมวลผลต่างๆ หรือแม้แต่การเล่นเกม
อย่างแอพพ์ระดับโปรทั้งหลาย สำหรับนักออกแบบ นักบิน หมอ หรืออื่นๆ ก็สามารถใช้กับไอแพด มินิ รุ่นนี้ได้ และแน่นอนว่า ในช่วงที่เด็กนักเรียนเรียนออนไลน์กันอยู่ ไอแพด มินิ ก็มีประโยชน์แน่นอน สำหรับการเรียนออนไลน์ พร้อมกับฟังก์ชั่นการเรียนรู้ของระบบ หรือแมชชีน เลิร์นนิ่ง (ML) ขั้นสูง ที่ทำงานได้เร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
สำหรับราคานั้น ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่รุ่นที่เป็นไวไฟอย่างเดียว จะอยู่ที่ประมาณ 17,900 บาท และรุ่น ไวไฟ+ เซลลุลาร์นั้น จะเริ่มต้นที่ 23,400 บาท มีให้เลือกสีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และสีเทาสเปซเกรย์
