คอลัมน์ TasteTest : ซัมซุง เอส21 เอฟอี 5จี กล้องดี ฟีเจอร์แน่นระดับแฟลกชิป

s21fe

คอลัมน์ TasteTest : ซัมซุง เอส21 เอฟอี 5จี กล้องดี ฟีเจอร์แน่นระดับแฟลกชิป

สิ่งที่สะดุดตาแรกเลย สำหรับ ซัมซุง เอส21 เอฟอี 5จี (Samsung S21 FE 5G) คือเรื่องของสีเครื่อง ที่ได้มาเป็นสีเขียว (Olive) เห็นแล้ว รู้สึกได้ถึงความ “หวาน” น่ารักเชียว และพื้นหลังยังเป็นผิวขัดเรียบด้านแบบแมทท์ด้วย ก็ยิ่งให้ความรู้สึกนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น สัมผัสได้ถึงความเป็นพาสเทล

โดยรูปร่างหน้าตาเบื้องต้นนั้น ก็เรียบง่าย ด้านหลังมีกล้องอยู่ 3 ตัวเรียงตรงกันลงไป หน้าจอของเครื่องเป็น Dynamic AMOLED 2X พิกเซล ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400×1080 พิกเซล) ขณะที่รีเฟรช เรต อยู่ที่ 120Hz น้ำหนักเครื่องกำลังดี คืออยู่ที่ 177 กรัม ไม่หนักมาก กำลังเหมาะมือ

สำหรับกล้อง 3 ตัวนั้น ก็ประกอบไปด้วย กล้อง 12 ล้านพิกเซล Dual Pixel F /1.8 , กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Ultra Wide ให้มุมมอง 123 องศา F /2.2 และ กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Telephoto + AF, OIS ซูมแบบ Optical 3 เท่า และ Digital Zoom 30X F /2.4

เรียกได้ว่า กล้องให้มาครบ จะถ่ายกลางวัน ถ่ายกลางคืน ถ่ายภาพตอนไปเที่ยว หรือถ่ายภาพจากระยะไกล ระยะใกล้ ก็ได้ภาพสวยคมชัด โดยเฉพาะการถ่ายภาพตอนกลางคืน ที่มี AI Multi Frame Composition ที่รวมภาพ 14 เฟรมเป็น 1 ภาพภายใน 5 วินาที เพื่อช่วยลดนอยซ์ (noise) และความเบลอที่อาจเกิดขึ้น ที่ทำให้เก็บภาพช่วงกลางคืนได้อย่างสวยงาม

Advertisement

สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น ก็รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ซึ่งตรงนี้ถือว่า ด้อยกว่าตัว S21+ ที่ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 8K เลยทีเดียว โดยรุ่นนี้ยังมีความสามารถในการใช้กล้องหน้าและกล้องหลังถ่ายวิดีโอได้ในเวลาเดียวกัน

ส่วนกล้องหน้า มี 1 ตัว ความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าสูงมากเลยทีเดียว ทำให้การถ่ายภาพจากกล้องหน้านั้น คมชัด สวยสมจริง

ในส่วนของการกันน้ำกันฝุ่นนั้น อยู่ที่ IP68 คือสามารถกันน้ำสาดได้ กันน้ำที่ความลึกได้ไม่เกิน 1.5 เมตร และสามารถกันฝุ่นละอองได้

ปลดล็อกได้ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ โดยสามารถสแกนบนหน้าจอได้เลย หรือจะปลดด้วยการจดจำใบหน้าก็ได้

แบตเตอรี่ ให้ความจุมาสูงถึง 4500 mAh ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องหาที่ชาร์จ แต่ถ้าต้องชาร์จ เครื่องนี้ก็รองรับการชาร์จเร็วด้วย ระบบชาร์จเร็ว 25W แค่การชาร์จเพียง 30 นาที แบตเตอรี่ก็จะมีเพิ่มขึ้นมาถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แถมยังสามารถแบ่งปันแบตเตอรี่แบบไร้สาย คือปล่อยพลังงานแบตเตอรี่ให้คนอื่นได้อีกด้วย

โดยราคาขายตอนนี้ จะอยู่ที่ประมาณสองหมื่นกว่าบาท แล้วแต่ขนาดความจุ คือมีให้เลือก 128GB กับ 256 GB โดยมีให้เลือก 4 เฉดสี ได้แก่ สีเขียวโอลีฟ, สีม่วงลาเวนเดอร์, สีขาว และสีดำแกรไฟต์

แม้จะไม่ใช่รุ่นแฟลกชิปใหญ่ๆ แต่ทั้งสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ได้ต่างกันเลย แถมราคายังดีกว่าด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image