Crestron เพิ่มคุณสมบัติการประชุมไร้สายให้กับเทคโนโลยี AirMedia รองรับการใช้งานในออฟฟิศและสั่งงานระยะไกล
Crestron เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ในด้านเทคโนโลยีโซลูชันในสำนักงาน ประกาศวันนี้ว่าได้เพิ่มคุณสมบัติด้านการประชุมไร้สายให้กับโซลูชัน Crestron AirMedia® ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็ว ความสะดวก และความคล่องตัวในการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันของทีมงานในองค์กร คุณสมบัติด้านการประชุมไร้สายจะช่วยให้พนักงานสามารถเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ได้จากอุปกรณ์ส่วนตัวและใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีอยู่เดิม ทั้งยังช่วยสนับสนุนให้การประชุมในออฟฟิศยุคใหม่ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกที่ทุกเวลา
Bring Your Own Meeting และขจัดอุปสรรคในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอให้หมดไป
เทคโนโลยีจาก Crestron AirMedia ช่วยยกระดับการจัดการประชุมด้วยตนเองหรือ Bring Your Own Meeting (BYOM) เพื่อรองรับการนำเสนอและการประชุมแบบไร้สายที่ล้ำสมัยได้ในโซลูชันเดียว สำหรับองค์กรที่ใช้แพลตฟอร์มด้านการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ(Video Conferencing) คุณสมบัติการประชุมไร้สายนี้ จะช่วยให้พนักงานสามารถใช้ประโยชน์จากกล้องและไมโครโฟนส่วนตัวทุกชนิดบนแพลตฟอร์มใดก็ได้ในองค์กร และสำหรับองค์กรที่ใช้ Microsoft Teams® หรือ Zoom Rooms™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานหลักขององค์กร ด้วยคุณสมบัติการประชุมไร้สายนี้ สามารถรองรับการเข้าร่วมประชุมกับองค์กรภายนอก หรืออุปกรณ์ของผู้ที่ได้รับเชิญหรือผู้มาติดต่อ เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการระบบอื่นได้
ด้วยคุณสมบัติการประชุมไร้สายนี้ จะทำให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อกับระบบประชุมทางไกลผ่านวิดีโอได้ในทุกพื้นที่ ไม่ว่าห้องดังกล่าวจะมีลักษณะใด และจำเป็นที่จะต้องเดินสายสัญญาณหรือไม่ โดยโซลูชันของ Crestron AirMedia จะมาพร้อมกับระบบกระจายเนื้อหา ภาพและเสียง, การนำเสนอ และการประชุมไร้สาย ไว้ในที่เดียว ซึ่งจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติม คือความรวดเร็วทั้งในด้านการติดตั้งใช้งาน การต่อขยายระบบ และการอัปเกรดตัวอุปกรณ์ได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม Crestron XiO® Cloud
ลอเรน ซิมเมน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Crestron กล่าวว่า “เราทราบจากลูกค้าของเราว่า ประสบการณ์ด้านการทำงานร่วมกันเป็นทีม ให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นนั้น มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ดังนั้น เราจึงได้พัฒนา Crestron Flex มาอย่างต่อเนื่อง และได้ออกแบบระบบการประชุมไร้สายแบบใหม่นี้ขึ้นมา เพื่อกำจัดอุปสรรคต่างๆ ที่ลูกค้าเคยพบอยู่ก่อนหน้านี้ให้หมดไป” และได้กล่าวต่อท้ายอีกว่า “การกำจัดข้อจำกัดในการเข้าถึง, การส่งสัญญาณ และการทำงานร่วมกันกับคอนเทนต์ต่างๆ จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ระบบการประชุมไร้สายนี้จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลสำเร็จ”
ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นได้ในทุกพื้นที่
เมื่อบริษัทต่างๆ ได้ประเมินแล้วว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการทำงานในสำนักงานให้รองรับการทำงานแบบไฮบริดได้ดียิ่งขึ้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ต้องมั่นใจว่าทีมงานจะสามารถปรับปรุงการใช้เวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ดีที่สุด ผลการสำรวจจาก Frost & Sullivan พบว่า ผู้นำทางธุรกิจ 93% คาดหมายให้พนักงานของตนเองอย่างน้อยหนึ่งในสี่ทำงานจากที่บ้าน และ 36% จะลงทุนในเรื่องห้องประชุมเพิ่มขึ้น1 เทคโนโลยีที่สามารถรองรับการประชุมระหว่างทีมต่างๆ โดยเฉพาะทีมงานเฉพาะกิจได้อย่างสะดวก มีประสิทธิภาพ และทำงานร่วมกันได้ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยลดการเสียเวลาและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างสูงสุด
การทำงานร่วมกันลักษณะนี้จำเป็นต้องอัปเกรดห้องประชุมแบบเดิม เพื่อให้เอื้อต่อการทำงานร่วมกันแม้อยู่ในสถานที่ซึ่งไม่เป็นทางการ เช่น ห้องรับรอง ห้องอาหาร ห้องประชุมขนาดเล็ก และสถานที่อื่นๆ ซึ่งคุณสมบัติการประชุมไร้สายและจอแสดงผลที่มีจะทำให้พนักงานสามารถสนทนาต่อเนื่องจากที่เริ่มต้นไว้และสามารถเชิญผู้เข้าร่วมประชุมจากระยะไกลได้โดยง่าย เรียกว่าการประชุมอันน่าประทับใจสามารถจัดขึ้นได้จากทุกที่
