กรุงเทพมหานคร – ในช่วงเวลาที่โลกอุตสาหกรรมเผชิญกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) แรงกดดันด้านความยั่งยืน (Sustainability) และความจำเป็นในการปรับตัวของบุคลากรให้พร้อม AVEVA บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมชั้นนำของโลก ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน Sue Quense ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ (Chief Commercial Officer) ของ AVEVA ให้ทัศนะเชิงลึกเกี่ยวกับโซลูชันและวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเสริมศักยภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
AVEVA มีพันธกิจหลักในการช่วยเหลือลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมตลอดวงจรชีวิต โดย Sue Quense อธิบายว่า “สิ่งที่เราทำคือการช่วยเหลือลูกค้าภาคอุตสาหกรรมของเราตลอดวงจรชีวิต ตั้งแต่การริเริ่มแนวคิดเกี่ยวกับโรงงาน ช่วยออกแบบ ช่วยดำเนินการ และปรับปรุงให้ดีที่สุด โดยยึดมั่นหลักการ “ออกแบบ สร้าง ดำเนินการ และเพิ่มประสิทธิภาพ” (Design, Build, Operate, Optimize) นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AVEVA ในการนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุม อย่างเช่นผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง AVEVA E3D Design และ AVEVA Process Simulation ที่ช่วยในขั้นตอนการออกแบบทางวิศวกรรมและการจำลองกระบวนการผลิต ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพรวมและปรับปรุงแผนงานได้อย่างแม่นยำตั้งแต่เริ่มต้น Sue Quense ย้ำต่อว่า “นอกจากนั้น AVEVA ยังมีโซลูชันครบครันที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยา ไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างพลังงาน น้ำมันและก๊าซ เคมีภัณฑ์ เยื่อกระดาษและกระดาษ เซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงระบบบริหารจัดการน้ำและของเสีย ทำให้ 90% ของบริษัทอุตสาหกรรมต่างๆ ใน Fortune 500 ใช้โซลูชันของ AVEVA”
โดยโซลูชันทั้งหมดของ AVEVA สามารถเข้าถึงและทำงานร่วมกันได้ผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AVEVA Connect ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบเปิดและเป็นกลางที่ครอบคลุมวงจรระบบอุตสาหกรรมทั้งหมดแบบเรียลไทม์ CONNECT เสนอการบริการข้อมูล การบริการเวอร์ชวลไลเซชั่น ความสามารถด้านแบบจำลองและการวิเคราะห์ การบริการการพัฒนาแอปพลิเคชัน ตลอดจนการบริหารจัดการการใช้งานและการบริการแบบเนทีฟทั้งหมดบนแพลตฟอร์มเดียว แพลตฟอร์มนี้ยังได้รวมข้อมูล คู่เสมือนดิจิทัล (Digital Twin) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทางอุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญในเชิงลึกไว้ด้วย
ปลดล็อกพลังของข้อมูล สู่การตัดสินใจที่เฉียบคมด้วย PI System และ AVEVA Data Hub
ในโลกปัจจุบัน ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ แต่การเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลกลับเป็นความท้าทายใหญ่ของหลายองค์กร Sue Quense เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจที่เรียกว่า “AVEVA Industrial Intelligence Index” ระบุว่า “ประมาณ 55% ของผู้บริหารองค์กรทั้งหลายไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ขององค์กรอย่างเรียลไทม์ เพื่อมาใช้ช่วยในการพิจารณาตัดสินใจเรื่องที่สำคัญ แม้ว่าบริษัทจะมีข้อมูลนั้นอยู่ก็ตาม พวกเขาไม่สามารถดึงข้อมูลออกมา หรือนำมามองในมุมที่เป็นประโยชน์ได้ และมีเพียง 23% เท่านั้นที่คิดว่าทีมงานของตนสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นในการตัดสินใจเลือกที่ถูกต้องได้ และเกือบครึ่งประมาณ 49% รายงานว่าการแบ่งปันข้อมูลมีไม่เพียงพอเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างสำคัญที่ AVEVA มุ่งมั่นที่จะเข้ามาแก้ไข
โซลูชันของ AVEVA โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PI System ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ AVEVA และ AVEVA Data Hub ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการรวบรวม จัดการ วิเคราะห์ และแสดงผลข้อมูลเรียลไทม์ปริมาณมหาศาลจากหลากหลายแหล่งที่มาได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sue Quense ตั้งคำถาม “การทำให้เป็นดิจิทัลคือกุญแจสำคัญ หากไม่มีข้อมูล คุณจะทำการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ได้อย่างไร คุณจะทำการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ได้ดีขึ้นได้อย่างไร คุณจะมีทัศนวิสัยในการปฏิบัติงานและข่าวกรองการปฏิบัติงานได้อย่างไร” ทั้งนี้ เทคโนโลยีของ AVEVA ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน (Operational Visibility) ผ่านโซลูชันอย่าง AVEVA System Platform (หรือที่รู้จักในชื่อเดิมว่า Wonderware) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับ SCADA, HMI และ IIoT ช่วยให้ทำการวิเคราะห์เชิงลึก และนำไปสู่การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยลดการหยุดทำงานของเครื่องจักรที่ไม่จำเป็น และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยรวม
นอกจากนี้ การแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยภายในระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ก็เป็นอีกหนึ่งมิติที่ AVEVA ให้ความสำคัญ Sue Quense กล่าวเสริม “เมื่อคุณมีข้อมูลพร้อมใช้งาน คุณสามารถแบ่งปันข้อมูลนั้นอย่างปลอดภัยกับสมาชิกในระบบนิเวศของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น” สิ่งนี้ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างซัพพลายเออร์ ผู้ให้บริการ และพันธมิตรต่างๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร
ประโยชน์ที่จับต้องได้และความสำเร็จที่พิสูจน์แล้วด้วย AVEVA APM และ MES
เทคโนโลยีของ AVEVA ไม่เพียงแต่มอบข้อมูลเชิงลึก แต่ยังนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่วัดผลได้จริง Sue Quense ยกตัวอย่างประโยชน์ในหลายๆ ด้าน เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบทางวิศวกรรม ซึ่งเครื่องมืออย่าง AVEVA E3D Design และ AVEVA Process Simulation ช่วยให้สามารถ “ทดลองออกแบบได้หลากหลายรูปแบบ และมั่นใจได้ว่าจะได้การออกแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดำเนินงาน แม้กระทั่งก่อนที่จะสร้างโรงงาน” ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างถูกต้องจากมุมมองทางเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน การเลือกใช้วัตถุดิบ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อโรงงานถูกสร้างขึ้นแล้ว เครื่องมือของ AVEVA จะเข้ามาช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย Sue Quense เน้นย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน “ในโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างอันตรายมากหากคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เครื่องมือปฏิบัติการของเราช่วยให้บุคลากรสามารถคาดการณ์ปัญหาและทำงานได้อย่างปลอดภัย” นอกจากนี้ เครื่องมือด้านข้อมูลยังช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบการดำเนินงานย้อนหลัง วิเคราะห์แนวโน้ม และจัดทำรายงานที่จำเป็นสำหรับหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ
หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่นในประเทศไทยคือ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCG Chemicals) ซึ่ง Sue Quense กล่าวถึงด้วยความภาคภูมิใจ ” SCG Chemicals เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่รู้จักกันดีที่สุด ที่ใช้ชุดเครื่องมือของเราสำหรับการปรับปรุงและบริหารจัดการสินทรัพย์ เช่น AVEVA Predictive Analytics (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโซลูชัน AVEVA Asset Performance Management (APM)) ซึ่งใช้เทคโนโลยีปัจจุบันอย่าง AI, Machine Learning และ Predictive Analytics มาเฝ้าสังเกตุ (monitor) โรงงานซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดและคาดการณ์ความบกพร่องต่างๆ ที่จะทำให้โรงงานต้องหยุดชงักการทำงานลง เพื่อบรรลุเป้าหมาย การหยุดชงักการทำงานของโรงงานที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ให้เป็นศูนย์ (zero plant shutdowns) ทำให้สามารถประหยัดได้ถึงประมาณ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ” ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนให้กับ SCG Chemicals แต่บริษัทย่อยของ SCG ยังได้นำโซลูชันนี้ไปช่วยเหลือลูกค้าอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศให้ได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน
ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มหรือสินค้าอุปโภคบริโภค AVEVA Manufacturing Execution System (MES) มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้มั่นใจได้ว่ากระบวนการผลิตเป็นไปตามสูตรและมาตรฐานที่กำหนด Sue Quense ยังได้เล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับกระบวนการผลิตขนมเพรทเซลเพื่ออธิบายว่าข้อมูลสามารถช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สม่ำเสมอได้อย่างไร “ข้อมูลสามารถช่วยให้คุณระบุได้ว่า ขนมนี้เป็นล็อตที่ดีมาก ดูได้จากพารามิเตอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับล็อตการผลิตนี้'” แม้จะเป็นเรื่องราวสบายๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงพลังของข้อมูลในการควบคุมและปรับปรุงคุณภาพในอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างชัดเจน
รับมือความท้าทายด้านบุคลากรและการพัฒนาทักษะด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน Sue Quense อ้างอิงรายงาน ”Future of Jobs 2025”ของ World Economic Forum ที่ระบุว่า “ระหว่างปี 2025-2030 เราจะสูญเสียงานถึง 92 ล้านตำแหน่งให้กับ AI และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เราจะได้งานใหม่มาแทนที่ถีง 170 ล้านตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นงานประเภทที่แตกต่างออกไปจากเดิม สุทธิแล้วได้งานใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่สูญเสียไปถึง 78 ล้านตำแหน่ง” สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาทักษะ (Upskilling) และปรับทักษะ (Reskilling) ให้กับบุคลากร
AVEVA ตระหนักถึงความสำคัญในประเด็นนี้และได้ดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรแห่งอนาคต “การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลสำหรับลูกค้าของเราช่วยให้พวกเขาใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น” นอกจากนี้ AVEVA ยังให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล
ในประเทศไทย AVEVA มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหลายสถาบันการศึกษา เช่น สถาบันวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกต์แห่งประเทศไทย (Thai Institute of Chemical Engineering and Applied Chemistry : TIChe) โดยตั้งแต่ปี 2022 มหาวิทยาลัยที่เป็นสมาชิกของ TIChe สามารถใช้ AVEVA Unified Learning Management Platform และ AVEVA Process Simulation เพื่อฝึกอบรมให้นักศึกษาเข้าไปใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ของ AVEVA ผ่านคลาวด์และลองทำดูได้ Sue Quense กล่าว “เราทำงานเชิงรุกกับมหาวิทยาลัย พูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับการเพิ่มผลิตภัณฑ์ของเรา เช่น AVEVA Process Simulation เข้าไปในหลักสูตร เพื่อให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาออกมาเข้าใจและคุ้นเคยกับเครื่องมือที่จะได้ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง” นอกจากนี้ ในปี 2024 AVEVA ยังได้จัดการแข่งขัน “Academia Process Simulation (APS) Competition with TIChe” ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 100 คน จาก 25 ทีมทั่วประเทศ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม “เราหวังว่าพวกเขาจะมาเป็นพนักงานของเรา แต่ถ้าไม่เช่นนั้น ยังมีบริษัทอีกมากมายในประเทศนี้ที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะเหล่านี้”
ขับเคลื่อนความยั่งยืนและปรับตัวในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง
ความยั่งยืนได้กลายเป็นวาระสำคัญของธุรกิจทั่วโลก และ AVEVA ก็มีบทบาทในการช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านนี้ Sue Quense อธิบาย “เป็นเรื่องดีต่อธุรกิจที่จะมีความยั่งยืน และเมื่อคุณมีเครื่องมือที่เราจัดหาให้ คุณสามารถเริ่มมองไปที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลดของเสีย และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circularity)”
เธอยกตัวอย่างบริษัท Archaea ซึ่งเป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจาก BP ที่นำก๊าซจากหลุมฝังกลบ (Landfill Gas) มาทำความสะอาดและใช้ประโยชน์ “พวกเขากำลังทำสองสิ่ง คือกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากบรรยากาศ และใช้ประโยชน์จากแหล่งก๊าซที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องจากขยะ” โซลูชันของ AVEVA ช่วยในกระบวนการวัดผล ตรวจสอบ และรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิสูจน์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต “ลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบันต้องการให้เราพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ” ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์และหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการให้บริษัทจดทะเบียนรายงานผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
นอกเหนือจากความยั่งยืนแล้ว ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว (Agility) ยังเป็นสิ่งจำเป็นในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา “คุณต้องสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก และตอนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น” โซลูชันของ AVEVA ช่วยให้องค์กรมีข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ สามารถปรับเปลี่ยนทิศทาง หรือวางตำแหน่งตัวเองใหม่ได้อย่างเหมาะสม เช่น ในอุตสาหกรรมโรงกลั่น ที่ต้องพิจารณาว่าจะใช้วัตถุดิบที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
AVEVA กับอนาคตอุตสาหกรรมไทย
Sue Quense แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทยอย่างยิ่ง “ในการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ ฉันเริ่มเข้าใจอย่างแท้จริงว่าไทยเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เธอมองว่าประเทศไทยมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและฐานลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง “เรารู้สึกว่าที่นี่มีความเติบโตเต็มที่ในแง่ของจำนวนประชากรที่มีความสามารถในการทำงานประเภทที่เราทำ และเราได้ลงทุนในเรื่องนี้ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และจะทำต่อไป”
ด้วยฐานลูกค้าที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย และความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการด้านการศึกษา AVEVA พร้อมที่จะเป็นพันธมิตรสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า สู่การเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลและบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง การประชุมผู้ใช้งานระดับโลก “AVEVA WORLD 2025” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ที่พึ่งผ่านมา ณ นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้แนวคิด “Accelerate your Industrial Intelligence” ได้ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำของ AVEVA ในการเร่งสร้างความอัจฉริยะให้กับอุตสาหกรรมทั่วโลก