เอ็นทีที คอม เพิ่มความมั่นใจไปอีกขั้น ด้วยบริการจัดการดูแลความเสียหายข้อมูลแบบครบวงจร

เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอร์เรชั่น ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศ ในกลุ่มบริษัท เอ็นทีที กรุ๊ป  เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าอีกระดับ ด้วยโซลูชั่นการบริหารจัดการด้านดูแลและป้องกันความเสียหายของข้อมูลแบบครบวงจร หรือ Disaster Recover (DR) พร้อมออกแบบให้ประสานการทำงานหรืออินทิเกรดเข้ากับระบบของลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ ด้วยระบบการทำงานแบบเรียลไทม์ และพร้อมให้บริการด้านเทคนิคตลอด 24/7

นายมาซาโตชิ ซึโบอิ รองประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านผลิตภัณฑ์และบริการ และศูนย์ข้อมูล เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันถือเป็นช่วงรอยต่อของการก้าวสู่การทำงานบนคลาวด์อย่างเต็มตัว ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่ยังคงคุ้นเคยกับการจัดเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ของตนเองเพื่อสำรองข้อมูลและป้องกันการสูญหาย ซึ่ง เอ็นทีที คอม เห็นถึงความสำคัญดังกล่าวกับลูกค้าที่ใช้บริการศูนย์ข้อมูล (Data Center) และบริการแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หรือ Business Continuity Planning (BCP) ของ เอ็นทีที คอม โดยเราได้ออกแบบการให้บริการเพื่อบริหารจัดการและป้องกันความเสียหายของข้อมูลพร้อมการกู้คืนแบบครบวงจร หรือ Disaster Recover (DR) เพื่อให้บริหารจัดการตามความเหมาะสมของข้อมูลและความต้องการของลูกค้า โดยเปิดให้บริการด้านการสำรองข้อมูล และป้องกันความเสียหายและการกู้คืนของข้อมูล

สำหรับการให้บริการดังกล่าวจะเป็นการบริหารจัดการความเสียหายแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบระบบการทำงาน การทดสอบ วิเคราะห์ความเสี่ยง ระบุปัญหา แก้ไขปัญหา และรายงานผล โดยการให้บริการจะเจาะลึกไปถึงการดูแลจัดหาทรัพยากรที่เหมาะสมในการสำรองข้อมูล เช่น ซีพียู(CPU) เมมโมรี(Memory) ฮาร์ดดิสก์(Hard Disk) และสตอเรจ(Storage) เป็นต้น พร้อมรองรับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรที่อยู่บนระบบคลาวด์(Cloud) และไฮบริดคลาวด์(Hybrid Cloud) โดยมีการตรวจสอบระบบ การทำงานแบบเรียลไทม์ และพร้อมให้การช่วยเหลือทางด้านเทคนิคทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้การให้บริการในส่วนของ DR ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในการจัดเก็บข้อมูล ได้แก่ พลังงานสำรอง ระบบปรับอากาศชนิดควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในรูปแบบ N+1 ตรวจจับควันไฟ ดับเพลิง ระบบควบคุมความชื้น และระบบรักษาความปลอดภัย 8 ระดับ ด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ได้จัดให้มีเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจไว้สำหรับจัดเก็บข้อมูลด้วยประสิทธิภาพสูง ระบบรักษาความปลอดภัยบนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟล์วอลล์(Firewall) และสวิทช์(Switch) ทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการวางระบบเพื่อปรับให้เหมาะสมกับขนาดองค์กรและสภาพแวดล้อมได้ รวมถึงการให้บริการโดยศูนย์ปฎิบัติการเครือข่าย (Network Operation Center :NOC) มีการประเมินสถานการณ์เพื่อการป้องกันเชิงรุก การสำรองข้อมูลและระบบรักษาความปลอดภัยการจัดเก็บข้อมูล พร้อมกับรายงานผลการดำเนินงาน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image