องค์การอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐอเมริกา แถลงเตือนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การรับประทานวิตามินไบโอทิน หรือวิตามิน บี7 หรือวิตามินเอช เข้าไปในปริมาณสูง สามารถส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในข้อมูลจากการตรวจร่างกายที่ได้จากการทดสอบในห้องแล็บ และผลการตรวจวินิจฉัยที่ผิดพลาดนี้ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตแล้ว 1 ราย
“ไบโอทิน” หรือวิตามินบี7 พบในวิตามินรวม, วิตามินเสริมก่อนคลอด, และในอาหารเสริมทั้งหลายที่อ้างว่าช่วยเสริมสุขภาพเล็บ, ผม และผิวหนัง ทั้งนี้ เอฟดีเอสหรัฐระบุไว้ในถ้อยแถลงว่า ไบโอทินสามารถทำให้ค่าการตรวจวินิจฉัยของห้องแล็บบางอย่างผิดเพี้ยนไปจากค่าที่เป็นจริงได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดการวินิจฉัยโรคผิด การตรวจสอบในห้องแล็บที่สามารถผิดเพี้ยนได้จากไบโอทินนั้นมีหลายอย่าง รวมทั้งการทดสอบเพื่อวัดระดับฮอร์โมน และการทดสอบเพื่อหาสัญญาณของการเกิดหัวใจวาย เป็นต้น โดยตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่า มีรายงานการตรวจผิดเพี้ยนทำนองนี้ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ในทางร้ายต่อผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในระยะหลัง
ถ้อยแถลงของเอฟดีเอระบุด้วยว่า คนไข้รายหนึ่งซึ่งรับประทานไบโอทินเข้าไปในปริมาณสูง เสียชีวิตไปเพราะอาการหัวใจวาย เนื่องจากเมื่อมีการตรวจเลือด ผลการตรวจแสดงให้เห็นว่าค่าของโทรโพนินในร่างกายของผู้ป่วยต่ำกว่าที่เป็นจริง จนไม่ได้รับการรักษาและหัวใจวายเสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้ โทรโพนินเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งถ้าอยู่ในระดับสูงจะแสดงให้เห็นว่าเกิดการเสียหายต่อหัวใจ
สถาบันการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาเสนอแนะไว้ว่า คนทั่วไปควรรับประทานไบโอทินในปริมาณ 0.03 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่อาหารเสริมหลายชนิดมีไบโอทินสูงถึง 20 มิลลิกรัม หรือกว่า 650 เท่าของปริมาณที่เสนอแนะ แต่ยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่าไบโอทินในปริมาณเท่าใดจึงก่อให้เกิดการผิดเพี้ยนในการตรวจวินิจฉัยของห้องแล็บได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการทดลองเบื้องต้นที่ผู้ทดลองกำหนดให้กลุ่มตัวอย่างรับประทานไบโอทิน 10 มิลลิกรัมต่อวันนาน 1 สัปดาห์ เพื่อดูว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการตรวจวินิจฉัยในห้องแล็บหรือไม่
ผลปรากฏว่าค่าของการวินิจในห้องแล็บ 40 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด 23 การวินิจฉัย ผิดพลาดโดยสิ้นเชิง
