‘เทตซาควอลโก’ ตำนานกำเนิดโลก?

เทตซาควอลโก เมื่อมีน้ำเต็มบึง (ภาพ-SAS-INAH)

“เทตซาควอลโก” เป็นสิ่งปลูกสร้างหินเก่าแก่ซึ่งพบในบึงน้ำขนาดใหญ่บริเวณตีนเขาของภูเขาไฟ อิซซัคซิฮัวทิล ภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศเม็กซิโกที่ตั้งอยู่ในบริเวณแนวชายแดนของรัฐเม็กซิโกกับรัฐพวยบลา เทตซาควอลโก เป็นที่รู้จักของนักสำรวจดีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 โดยมีทั้งนักสำรวจสมัครเล่นและนักโบราณคดีเข้าไปตรวจสอบหลายครั้ง ส่งผลให้มีแนวความคิดหลากหลายมากว่า เทตซาควอลโก ถูกสร้างขึ้นเมื่อใดและสร้างขึ้นเพื่ออะไร

ชื่อ “เทตซาควอลโก” สร้างขึ้นจากหินหลายชนิด มีขนาดใหญ่ ส่วนกว้างนั้นประมาณ 9.8 เมตร ส่วนยาวประมาณ 11.5 เมตร ในหน้าน้ำจะจมอยู่ใต้ผิวน้ำ แต่สามารถเห็นได้ชัดเจนในหน้าแล้งเมื่อน้ำน้อยหรือไม่มีเลย

สถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ (เอ็นไอเอเอช) ของเม็กซิโก มอบหมายให้ทีมโบราณคดีนำโดย ไอริส เดล โรชิโอ เอร์นันเดซ เบาทิสตา นักโบราณคดีของสถาบันดำเนินการขุดค้นเพื่อสำรวจตรวจสอบครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าให้เป็นการตรวจสอบครั้งใหญ่และถี่ถ้วนที่สุดเท่าที่เคยทำกันมาในแหล่งขุดค้น “นาฮัวลัค” แห่งนี้

แม้ว่าขณะนี้การสำรวจขุดค้นยังคงดำเนินไป แต่ทีมขุดค้นเผยแพร่ผลการขุดค้นเบื้องต้นออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า โบราณวัตถุที่ขุดพบจากแหล่งนี้ ซึ่งมีทั้งหม้อและโบราณวัตถุที่ทำจากหิน รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิต สามารถตรวจสอบอายุย้อนหลังไปได้กว่า 1,000 ปี และยังค้นพบร่องรอยของพิธีกรรมของคนโบราณในยุคอารยธรรมเมโสอเมริกา เพื่อสร้างระบบถ่ายเทน้ำจากบ่อน้ำพุในบริเวณใกล้เคียงมายังบึงแห่งนี้ เชื่อว่าเพื่อให้แน่ใจว่าบึงน้ำสำคัญแห่งนี้มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา แม้ในหน้าแล้งที่ฝนน้อยก็ตาม

Advertisement

ศาสตราจารย์เบาทิสตาระบุว่า จากหลักฐานที่พบเห็นและสิ่งของที่ขุดค้นพบมาได้จนถึงขณะนี้ สามารถตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่า เทตซาควอลโก ซึ่งมีขนาดใหญ่โตและถูกสร้างขึ้นกลางบึงน้ำธรรมชาตินั้น อาจเป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อเกี่ยวกับตำนานการสร้างโลกซึ่งผู้คนในอารยธรรมโบราณในบริเวณนี้เชื่อถือกันในเวลานี้ และใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมบูชาตามความเชื่อดังกล่าว

หรืออาจพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า เทตซาควอลโก คือภาพแผนภูมิของโลกและจักรวาลตามความเชื่อของผู้คนเหล่านั้นนั่นเอง

เทตซาควอลโก ในหน้าแล้ง (ภาพ-Arturo Cruz, Terrasat Cartografia)

ตัวสิ่งปลูกสร้างหิน หรือเทตซาควอลโก เป็นความพยายามของผู้คนในยุคนั้นที่จะจำลองภาพของ “ซีพัคลี” สัตว์ประหลาดในเทพนิยาย ที่มีส่วนหัวเป็นจรเข้ หางเป็นปลา และส่วนลำตัวเป็นกบ (หรือคางคก) ตำนานหนึ่งระบุว่า เดิมเทพเจ้าสร้างซีพัคลีขึ้นมาให้มีชีวิตอยู่ในมหาสมุทร มีความหิวโหยอยู่เป็นนิจ ต่อมาเทพเทซคัทลีโพคาสละเท้าข้างหนึ่งของตนเป็นเหยื่อเพื่อจับซีพัคลีมาและร่วมมือกับเทพเควทซาคัวทิล ใช้ร่างกายของซีพัคลีสร้างเป็นโลกขึ้นมาสำหรับเป็นที่อยู่ของสรรพสิ่งต่อมา

Advertisement

ตำนานดังกล่าวถูกบันทึกไว้ครั้งแรกในบันทึกของบาทหลวงชาวสเปน แอนเดรส เดอ ออลโมส ในศตวรรษที่ 16 ซึ่งระบุว่าเทพ 4 องค์เป็นผู้สร้างปลาใหญ่ลักษณะคล้ายจรเข้ขึ้นมาให้ชื่อว่าซีพัคลี ก่อนใช้ร่างกายของมันสร้างโลกใบนี้ขึ้นในเวลาต่อมา

มีการกล่าวอ้างว่ากันว่า เทตซาควอลโกสร้างขึ้นโดยชนชาวแอซเทค (หนึ่งในวัฒนธรรมโบราณในเมโสอเมริกา รุ่งเรืองขึ้นมาระหว่างปี ค.ศ.1300-1500) แต่จากการตรวจสอบของทีมขุดค้นพบว่า สิ่งปลูกสร้างหินขนาดใหญ่นี้สร้างขึ้นมาก่อนหน้าการมาถึงของวัฒนธรรมแอซเทคอย่างน้อย 3 ศตวรรษ

เชื่อว่าเป็นผลงานของวัฒนธรรมเมโสอเมริกันก่อนหน้าแอซเทค ซึ่งยังไม่มีการศึกษาบ่งชี้ไว้ชัดเจนนัก นอกจากนั้นไม่ชัดเจนเช่นกันว่าเทตซาควอลโกถูกใช้งานมานานเท่าใด และพิธีกรรมบวงสรวงในสิ่งปลูกสร้างนี้คือพิธีกรรมแบบใด

ฮวน เบาทิสตา โพมาร์ นักเขียนเม็กซิกันที่มีเชื้อสายสเปนผสมกับชนท้องถิ่นเมโสอเมริกัน เคยบันทึกไว้ในศตวรรษที่ 16 ว่า เทตซาควอลโกถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวง “ทลาล็อค” เทพแห่งฝนในตำนานเมโสอเมริกัน มาจนถึงคตวรรษที่ 16 ผู้รับผิดชอบที่ “วิหารเทตซาควอลโก” ต้องสังเวยเด็กบริสุทธิ์ต่อเทพผู้นี้ปีละ 1 คนเรื่อยมา

แต่จนถึงขณะนี้ ทีมขุดค้นของศาสตราจารย์เบาทิสตายังไม่พบซากศพมนุษย์ในบริเวณเทตซาควอลโก แต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image