‘ครูปรีชา’ ดอดพบ ‘ศธจ.กาญจน์’ ร้องขอความเป็นธรรมถูกสอบร้ายแรง ยิ้มสู้! ลั่นไม่หนักใจ

จากกรณีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีปมหวย 30 ล้านบาท ของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (จังหวัดราชบุรี-กาญจนบุรี) นั้น

เมื่อเวลา 07.55 น. วันที่ 21 มิถุนายน ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี ครูปรีชาได้เดินทางเข้าพบนายอนันต์ กัลปะ ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี (ศธจ.กาญจนบุรี) ที่ห้องทำงาน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในกรณีที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยมีนายโชคชัย ฟักโต ผอ.โรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง ในฐานะคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ฝ่ายกฎหมาย เข้าร่วมรับฟังด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที ครูปรีชา ก็กลับออกมาจากห้องทำงานของ ศธจ.กาญจนบุรี ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนเช่นเคย และไม่มีทีท่าหรือสีหน้าวิตกกังวลให้เห็นแต่อย่างใด

โดยครูปรีชาได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุเพียงว่า ไม่ได้หนักใจ ขณะนี้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (ศูนย์ประสานงาน) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ จังหวัดกาญจนบุรี และไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับคดีความ เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการศาลแล้ว รวมทั้งโครงการที่จะพาแฟนคลับไปเที่ยวด้วย อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และขอให้รอผลการตัดสินของศาล

จากนั้น ครูปรีชาก็ได้ขึ้นรถและขับออกไปทันที เนื่องจากเวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้นัดไต่สวนคำร้องกรณี ครูปรีชา ยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ฐานละเมิดอำนาจศาลในการเผยแพร่ข้อมูลคลิปเสียงเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน

Advertisement

ขณะที่นายอนันต์เปิดเผยภายหลังว่า ครูปรีชาได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม โดยอ้างใน 2 ประเด็นหลักๆ คือ 1.ขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญในกระบวนการดำเนินการทางวินัย ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (สพม.8) ซึ่งเป็นต้นสังกัดนั้น ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนตามขั้นตอนของกฎหมายที่จะเสนอให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการพิจารณาในการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้ 2.ในทางคดีของ ครูปรีชา ซึ่งขณะนี้ข้อมูลได้มีการเปลี่ยนแปลง และมีความเคลื่อนไหวของคดีตลอดเวลา โดยกล่าวอ้างว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีทางอาญาแต่ประการใด จึงมาร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี (กศจ.กาญจนบุรี) และ ตน ในฐานะเลขาฯ กศจ.กาญจนบุรี เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องของการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง

ซึ่งระหว่างนี้ทาง ศธจ.กาญจนบุรี จะรวบรวมข้อมูลให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งจาก สพม.8 และจากครูปรีชา เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม กศจ.กาญจนบุรี ในวันที่ 4 ก.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาว่าจะดำเนินการทางวินัยอย่างไรต่อไป รวมทั้งมาตรการทางการบริหารด้วย ทั้งนี้ หากคำร้องทุกข์ของครูปรีชา ที่ร้องขอความเป็นธรรม มีหลักฐานชัดเจน ครบถ้วน คำร้องทุกข์ฟังขึ้น ก็จะไม่ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับครูปรีชา แต่หากพยานหลักฐานของครูปรีชา ฟังไม่ขึ้น เราก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป โดยพิจารณาคำร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมของครูปรีชา เป็นหลักในการพิจารณา

สำหรับคณะกรรมการสอบสวนซึ่งตนได้เตรียมการไว้ตั้งแต่วานนี้ (20 มิ.ย.61) จำนวน 5 ท่าน มีนายโชคชัย ฟักโต ผอ.โรงเรียนวัดพระแท่นดงรัง ในฐานะคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด ฝ่ายกฎหมาย เป็นประธานในการสอบสวนฯ นั้น ขณะนี้ได้ชะลอการปฏิบัติหน้าที่ออกไปก่อน เพื่อรอผลการพิจารณาองค์ประกอบความผิดทางวินัยในวันที่ 4 ก.ค.2561

Advertisement

ทั้งนี้ในกรณีที่ข้าราชการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 คือ ศธจ. มีอำนาจในการพักราชการ หรือ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้ จนกว่าคดีจะเป็นที่สิ้นสุด หากมีความผิดจริงก็ต้องออกจากราชการ แต่หากพิสูจน์ได้ว่าไม่มีความผิด ก็กลับเข้าราชการตามเดิม อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น จะต้องพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบรอบด้าน และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image