จากกรณีพบศพหญิงสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนรวม 14 ชิ้น ยัดใส่กระสอบปุ๋ยโยนทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาริ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ลักษณา หรือเมย์ กำลังเก่ง อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด อดีตพนักงานบัญชี บริษัทพริ้นต์วิทมี จำกัด ซอยเลียบคลองสอง 29 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.
ก่อนที่จะสามารถควบคุมตัวนายธนกฤต หรือวุธ ประกอบ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.625/2561 ลงวันที่ 24 มิถุนายน ของศาลจังหวัดมีนบุรี อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำ พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนตร์ ยามาฮ่า จีที โดยเเจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นย้ายทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุเเห่งการตาย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ได้เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดเเรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เเละเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ควบคุมผู้ต้องหาไปทำเเผนประกอบคำรับสารภาพที่แมนชั่น จุดที่ทำการหั่นศพ 4319 ชั้นสามอาคาร 4 ดีดีแมนชั่น ซ.โรงพยาบาลนวมินทร์1 ถ.สีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี โดยมีชาวบ้านละเเวกนั้นมุงดูเเละตะโกนสาปเเช่งจำนวนมาก และจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ นำชิ้นส่วนศพมาทิ้งบริเวณพงหญ้าข้างทาง ถ.สามวา ระหว่าง ซ.สามวา 27-29 แขวงบางชัน ท่ามกลางไทยมุง ที่มารอดูเหตุการณ์หลายร้อยคน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังตำรวจ ทหาร อาสากู้ภัย ในการกันประชาชนไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้อง ขอให้ประหารชีวิตผู้ต้องหารายนี้
โดยระหว่างทำเเผนที่ให้ผู้ต้องหาทำท่าทางโยนถุงที่ใส่อวัยวะผู้ตาย มีเหตุการณ์ชุลมุนที่ชาวบ้านที่มาคอยดูการทำเเผน พุ่งฝ่าเเนวรั้วที่กั้นไว้เพื่อจะมาทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปควบคุมห้ามปรามจนฝุ่นตลบ จากนั้นรีบควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปคุมขังเนื่องจากเกรงเกิดเหตุที่ควบคุมไม่ได้
ขณะที่วันนี้ น้าสาวของน้องเมย์เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งญาติของผู้ตายเรียกร้องให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาให้ตายตกไปตามกัน
ส่วนศพของผู้ตาย นายแก้วมูล กำลังเก่ง บิดาของ น.ส.ลักษณา ได้เดินทางไปรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดดงหัวเรือ ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างทำเเผนในจุดที่สองก็ยังได้กลิ่นเหม็น
