เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 3( รอง ผบ.ตร. ปป3) เปิดเผยผลการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าของศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุม หรือ Command and Control Operation Center หรือ ซีซีโอซี ว่า เป็นมาตรการกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ตามสั่งการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ โดย สถิติผลการดำเนินการตามหมายจับในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงระหว่างวันที่ 1 – 10 เมษายน สามารถดำเนินการตามหมายจับ ได้ 42,915 หมาย เป็นการจับกุมผู้ต้องหา 20,172 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อหาการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกงทรัพย์ รองลงมาเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และการกระทำความผิดต่อชีวิตและร่างกาย โดยผลการดำเนินการตามหมายจับของหน่วยเกี่ยวข้องที่มีสถิติสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ บช.น. 13,848 หมาย, ภ.1 จำนวน 8,448 หมาย, ภ.7 จำนวน 3,451 หมาย, ภ.4 จำนวน 3,231 หมาย, ภ.3 จำนวน 2,895 หมาย, ภ.6 จำนวน 2,588 หมาย, ภ.5 จำนวน 1,828 หมาย, ภ.8จำนวน 1,745 หมาย, ภ.2 จำนวน 1,477 หมาย และ บช.ก. จำนวน 1,083 หมาย
“ผลจากมาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าในคดีสำคัญๆ หลายคดี โดยเฉพาะคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประสงค์ต่อชีวิตและทรัพย์ ลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยป้องกัน ตัดโอกาสที่คนร้ายจะก่อเหตุซ้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงคดีค้ายาเสพติดที่สามารถสกัดจับมิให้ยาเสพติดถูกขนส่งไปยังชุมชนเมืองสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถสกัดจับรถและบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ภาค 9 และ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)เป็นการป้องกันการก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่ อย่างไรก็ตามตร. โดยศุนย์ ซีซีโอซีจะยังคงมาตรการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าต่อไป เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากประชาชน พบเห็นเบาะแสอาชญากรรม ให้แจ้งไปยังตำรวจได้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือโทรแจ้งที่หมายเลข 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลเบาะแสของประชาชนคือกุญแจสำคัญในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตำรวจ”พล.ต.อ.วินัย กล่าว
