ทนายแม่น้องแอ๋ม เตรียมยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินศาลชั้นต้น ‘แก๊งเปรี้ยว’ ชี้ไม่ควรได้ลดโทษ

ทนายความแม่น้องแอ๋ม เตรียมยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินศาลชั้นต้นที่พิพากษาโทษจำคุกแก๊งเปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ ให้เป็นโทษร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรอง ภายในเดือน ก.ค.นี้ ชี้จำเลยไม่สมควรได้ลดโทษ กึ่งหนึ่ง เพราะต่างจำนนด้วยหลักฐาน

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายนพดล สีดาทัน ทนายความของ น.ส.พิชชาภา คำเพิงใจ แม่ของ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม เปิดเผยความคืบหน้าในการยื่นเรื่องอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่ได้มีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมพวกรวม 5 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา แล้วนำไปฝังอำพรางในพื้นที่อำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ซึ่งศาลจังหวัดขอนแก่นได้มีการอ่านคำพิพากษาของศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายนพดลระบุว่า ขณะนี้ทนายความกำลังตรวจสำนวนและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อเร่งร่างคำอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถยื่นต่อศาลได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยประเด็นสำคัญของการยื่นอุทธรณ์คือการนำหลักฐานต่างๆ ที่มีการนำสืบในขั้นตอน ของศาลชั้นต้น แสดงให้ศาลเห็นว่าพฤติการณ์ของกลุ่มจำเลยในการฆาตกรรม น.ส.วริศรา เป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 มีโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต ซึ่งการที่ศาลได้มีคำพิพากษาจำเลยโดยเป็นโทษจำคุก เพราะเห็นว่าจำเลยให้การเป็นประโยชน์ และเป็นฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น ทนายความเห็นว่าจำเลยไม่ได้ให้การด้วยความสมัครใจ แต่เป็นการจำนนด้วยหลักฐานมากกว่า ซึ่งทนายความจะทำเรื่องอุทธรณ์ยื่นต่อศาลตามขั้นตอนต่อไป

Advertisement

สำหรับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ที่มีการอ่านคำตัดสินที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย จำเลยที่ 1 และ น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา จำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 คนละ 34 ปี 6 เดือน ให้จำคุก น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนท์ พรมคุณ จำเลยที่ 3 ฐานรับของโจรเป็นเวลา 2 ปี รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ให้จำคุก นายวศิน หรือนิว นามพรม จำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้อื่น เป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน คำให้การ เป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4 ทั้งสิ้น 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และให้จำคุกตลอดชีวิต น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต จำเลยที่ 5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน, ฐานเสพเมตแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน รับสารภาพลดโทษ กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 5 ทั้งสิ้น 33 ปี 9 เดือน

นอกจากนี้ ยังให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ร่วมกัน ชดใช้เงิน 1,070,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 พ.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันกระทำละเมิด จนกว่าชำระเสร็จ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ และให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 5 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยให้ริบของกลางทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image