เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติผืนป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-ทับลาน โดยนายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน) สนธิกำลังสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ตำรวจ สภ.ครบุรี อ.ครบุรี และฝ่ายปกครอง ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ได้รับแจ้งเตือนจากกล้อง ระบบ NCAPS ตรวจพบกลุ่มคนแบกเป้เสบียงกำลังเดินเข้าไปในป่า บริเวณป่าเขาตะเคียน ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา คณะเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังจัดชุดลาดตระเวนติดตามทันที
จนกระทั่งพบกลุ่มบุคคลหลายสิบคน เดินอยู่ในป่าลักษณะเป็นขบวนคาราวาน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ กลุ่มบุคคลต้องสงสัยได้พากันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าที่มีสภาพสูงชัน รกทึบ เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจสอบ และสกัดกั้นรอบพื้นที่ ตรวจยึดเป้เสบียง อุปกรณ์ที่ใช้ดำรงชีพในป่า จำนวน 30 ใบ และเลื่อยยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย เป็นชายชาวกัมพูชา 2 คน ทราบชื่อคือ นายฮาตสำนาง เซิ้ง อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ตำบลบึงปรีง อ.ทมอโกล จ.พระตะบองฯ และนายฮอง เหิน อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ตะเปียงกลอง อ.ทะโกง จ.กัมปงสะปือฯ
จากสอบสวนทราบว่า ขบวนคาราวานลักลอบตัดไม้พะยูง ครั้งนี้ มีจำนวน 32 คน แยกเป็น คนไทยทำหน้าที่นำทาง 2 คน ชาวกัมพูชา 30 คน ใช้รถปิกอัพจำนวน 3 คัน เป็นยานพาหนะ เดินทางมาจากจังหวัดสระแก้ว ถึงบริเวณชายป่า อ.ครบุรี จ.นครราสีมา เพื่อลักลอบเข้าไปตัด และขนไม้พะยูง
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดชุดกำลังเพื่อติดตามกลุ่มคนที่ยังคงหลบหนีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางทั้งหมดมาที่ ฉก.ทับลาน สนง.เขตฯ อช.ทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน) ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมส่งมอบผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้ เจ้าหน้าที่ ฉก.ทับลาน (ร.23 พัน.1) ใช้อำนาจตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2559 ในการควบคุมสืบสวนสอบสวนขยายผลหากลุ่มขบวนการในการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
