รองโฆษกตร.เชื่อแก้ พ.ร.บ.จราจร เพิ่มโทษ เพิ่มค่าปรับหลักหมื่น เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนแน่!!

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการเสนอปรับแก้กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 เข้าด้วยกันให้เป็นกฎหมายฉบับเดียว อีกทั้งมีการเพิ่มอัตราโทษค่าปรับให้สูงขึ้น เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่และใบอนุญาตขับขี่หมดอายุ ว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น กรมการขนส่งทางบกได้เสนอปรับแก้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเข้าด้วยกันเพื่อให้เป็นกฎหมายเดียว ง่ายต่อการกำกับดูแล รวมทั้งเร่งปรับปรุงรายละเอียดของกฎหมาย ให้ทันสมัยและสอดคล้องพฤติกรรมขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนให้มากขึ้นในยุคปัจจุบัน

พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ตามกฎหมายใหม่ ที่กรมนำเสนอได้มีการแก้ไขปรับเพิ่มโทษสำคัญๆ ใน 3 มาตรา ประกอบด้วย
1.มาตรา 64 ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้ปรับเพิ่มโทษเป็น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
2.มาตรา 65 ขับรถในระหว่างใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกยึดใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมลงโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่กฎหมายใหม่เสนอให้เพิ่มโทษจำคุกเข้ามาด้วย คือ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนโทษปรับเพิ่มขึ้นเป็นสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
3.มาตรา 66 ขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาต ตามกฎหมายเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ตามกฎหมายใหม่ เสนอให้ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

“โดยร่างกฎหมายฉบับแก้ไขได้ผ่านความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ร่างอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากผ่าน สนช.แล้ว ตามขั้นตอนต่อไปจะต้องนำประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาก่อน จะมีผลบังคับใช้เป็นทางการหลังที่ลงประกาศในราชกิจจาฯครบ 1 ปีไปแล้ว” รองโฆษก ตร.กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า สำหรับประเด็นที่สื่อมวลชนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกฎหมายนี้ ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หากกฎหมายมีผลบังคับใช้ เจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อมในการปฏิบัติ จะบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและเที่ยงธรรม เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน โดยเบื้องต้นจะเน้นการประชาสัมพันธ์ก่อน และเพิ่มระดับความเข้มในมาตรการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
“การเพิ่มโทษ ตามกฎหมายใหม่นี้คาดว่าสามารถเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนและลดอุบัติเหตุในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ เพราะเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้มาตรการทางปกครองที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ตามมาตรา 161 พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 เกี่ยวกับการยึด และการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เมื่อผู้ขับขี่กระทำผิดและถูกบันทึกคะแนนความประพฤติตามกำหนด และสามารถนำมาตรการการยึดใบขับขี่และตัดคะแนนความประพฤติการขับรถมาใช้บังคับอย่างเป็นผล ผู้ขับขี่ที่ถูกสั่งยึด เพราะทำผิดกฎจราจรอย่างร้ายแรง หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ เพราะถูกตัดคะแนนครบตามกำหนด จะไม่กล้าฝ่าฝืนขับรถในขณะที่ถูกสั่งยึดหรือพักใช้อีก เพราะหากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีและถูกฟ้องต่อศาลทันที” รองโฆษก ตร.กล่าว

รองโฆษก ตร.กล่าวว่า กฎหมายจราจรนั้นเป็นกฎหมายที่ใกล้ตัว เป็นกฎหมายที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ผู้โดยสาร และผู้ที่สัญจรไปมา ให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและผู้อื่น โดยทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image