ดีเอสไอสรุปสำนวนฟ้องอีก 6 คดีฟอกเงินเครือข่าย ธรรมกาย ซื้อที่ดินสถานปฏิบัติธรรม

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม รางานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ ได้สรุปสำนวน คดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ทุจริตสั่งจ่ายเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มาที่กลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ได้มีการนำเงินไปซื้อที่ดินทั่วประเทศ โดยได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 21/2560 คดีฟอกเงิน โดยมีความเห็นสั่งฟ้อง 6 คน เป็นพระสงฆ์ 3 รูป บุคคลธรรมดา 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายศุภชัย ศรีศุภอักษร 2.นางสาวศรัณยา มานหมัด 3.นางทองพิน กันล้อม 4.พระวิรัตน์ โตมา 5.พระสุนันท์ ปัญญานันโท  6. พระประยูร ประดับคล่าย

รายงานข่าวระบุว่า พนักงานสอบสวนจะนำสำนวนสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 24 กันยายน 2561

ทั้งนี้คดีดังกล่าวดีเอสไอได้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนที่มีการหลอกลวงให้ประชาชนนำเงินมาฝากที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง และเมื่อระชาชนหลงเชื่อและได้นำเงินมาฝากแล้วได้มีการกระทำการทุจริตในสหกรณ์และมีการนำเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ไปโดยไม่ชอบ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินต่อเนื่องอีกหลายคดี รวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายที่ได้สรุปสำนวนส่งสำนักงานอัยการคดีพิเศษและอัยการคดีพิเศษได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้ว นั้น ดีเอสไอ ได้สืบสวนขยายผลต่อกับเครือข่ายวัดพระธรรมกายที่ได้รับเงินจากการที่ นายศุภชัย ทุจริตสั่งจ่ายเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มาที่กลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ได้มีการนำเงินไปซื้อที่ดินทั่วประเทศ โดยได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 21 /2560 ซึ่งเป็นคดีต่อเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษที่ 146/2560 ตามมาตรา 21 วรรคสอง พ.ร.บการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า นายศุภชัย กับพวกได้มีการทุจริตสั่งจ่ายเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด แล้วเบิกเป็นเงินสดโอนไปเข้าบัญชีพระสงฆ์หลายรูป และกลุ่มพระสงฆ์ ที่ได้รับเงิน ได้นำเงินไปซื้อที่ดินและจัดสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมและธุดงคสถานในเครือข่ายวัดพระธรรมกาย หลายแห่ง ได้แก่ที่ดินที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดพิจิตร และจังหวัดชุมพร ซึ่งที่ดินที่ซื้อนั้นยังพบว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เป็นชื่อของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร และชื่อบุคคลธรรมดา อันจะเป็นการสะดวกหากจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินในภายหน้า รวมความเสียหายรวมทั้งสิ้น 173,120,000 บาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image