ไทยอุบัติเหตุอันดับ 1 โลก 10 ล้านคนขับไร้ใบขับขี่ ตำรวจย้ำใช้รถบนถนนไม่ใช่สิทธิพลเมือง ต้องได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร กล่าว ถึงการแก้กฎหมายเพิ่มโทษจำคุกและปรับสูงสุด 50,000 บาท กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่และปรับสูงสุด 10,000 บาทไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ ว่า การปรับแก้กฎหมายเป็นการเพิ่มโทษเพดานค่าปรับ ทำให้กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่ การพิจารณาโทษต้องพิจารณาในชั้นศาล แต่กรณีมีแต่ไม่พกพาสามารถปรับในชั้นตำรวจ โดยอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายได้มีผลบังคับใช้เพดานการปรับก็คงไม่สูงถึง 10,000 บาทแน่นอน แค่กำหนดเป็นอัตราสูงสุดเท่านั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายอยู่แล้วไม่ให้การเปรียบเทียบปรับเป็นภาระแก่ประชาชนมากเกินไป

พล.ต.ต.เอกรักษ์กล่าวว่า การศึกษาของภาคีเครือข่ายมีข้อมูลทางวิชาการที่ยืนยันว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่าร้อยละ 30 ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่อย่างถูกต้อง วันนี้เราต้องยอมรับว่าประเทศไทยติดอันดับ 1 ของโลกในประเทศที่มีอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด และมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุดด้วย เป็นปัญหาที่เราต้องยอมรับ ขณะนี้เราพบว่ามีผู้ขับขี่บนท้องถนนกว่า 10 ล้านคนที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่โดย 8 ล้านคนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อีก2 ล้านคนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์

คณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร กล่าวว่า ขณะที่มีผู้ขับขี่ซึ่งมีใบขับขี่ 31 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกฎหมายการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่าจะผ่านร่างกฎหมายนี้หรือไม่โดยทางกรมการขนส่งยืนยันว่าจะนำทุกความคิดเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มอัตราโทษที่ประชาชนบางส่วนยังไม่เห็นด้วยไปเป็นข้อพิจารณา ทั้งนี้ยอมรับว่ามีเสียงคัดค้านเยอะ อยากให้เข้าใจว่าเหตุผลในการปรับเพิ่มโทษเพื่อให้ผู้ที่มาสัญจรบนท้องถนน ทุกคนต้องมีใบขับขี่บนท้องถนน หมายความว่าต้องมีความพร้อมจริงๆ

พล.ต.ต.เอกรักษ์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการขับขี่บนท้องถนนไม่ใช่สิทธิพลเมือง แต่เป็นเรื่องที่ต้องขอสิทธิขออนุญาต การขอสิทธิคือการขอมีใบอนุญาตขับขี่ และการจะผ่านได้รับใบอนุญาต อย่างหนึ่งต้องมีความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต้องมีทักษะ สองต้องผ่านการอบรม เพื่อเป็นประกันว่าสามารถขับขี่บนท้องถนนร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปลอดภัย เป็นเรื่องของสังคมโดยรวม บางคนอ้างว่าวิถีชีวิตแบบไทยต้องให้เด็กขี่รถจักรยายนต์ไปโรงเรียน อันที่จริงขอให้รอ หากเด็กอายุ 15 ปี ก็พาไปสอบใบขับขี่ให้ถูกต้อง ให้มีวุฒิภาวะที่มากพอก่อนค่อยให้ขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของเด็กเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image