เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.ต่อเกียรติ พรหมบุตร ผกก.สน.ดินแดง, พ.ต.ท.พีรรัฐ โยมา รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง, ร.ต.อ.นักสิทธิ์ คณะนัย รอง สว.สส.สน.ดินแดง, ด.ต.เฉลิมชัย สุขเสวตร ผบ.หมู่ สส สน.ดินแดง และ ด.ต.วิศรุต มากจงดี ผบ.หมู่ สส.สน.ดินแดง ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง จับกุมนายสมชาย น้อมธีระสุวรรณ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 พลัส สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 สีขาวทอง จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง และเงินสดจำนวน 910 บาท โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องเลขที่ 80/19 ซอยเพิ่มสิน 24/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.
สืบเนื่องจากตำรวจ สน.ดินแดง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย 2 ราย และหนึ่งในนั้นคือนายธนภัทรพงศ์ เปียงอุทา อายุ 29 ปี เป็นผู้ช่วยผู้กำกับละครซีรีส์ออนไลน์ชื่อดังของช่องมากสี ถูกขโมยกระเป๋าสะพายซึ่งภายในมีทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ และเงินสด โดยระหว่างที่ผู้เสียหายได้ออกกำลังกายเตะฟุตบอลภายสนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นทางตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ได้ทำการสืบสวนกระทั่งพบเบาะแสคนร้ายหลบหนีไปบริเวณซอยเพิ่มสิน 24/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม. จึงได้ประสานตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณที่จุดดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงพบนายสมชายยืนอยู่ มีท่าทีพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเป็นตำรวจเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือไอโฟนของกลางทั้ง 3 รายการอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่ จึงควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.ดินแดง
ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า โทรศัพท์ไอโฟนทั้ง 3 เครื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นเจอภายในกระเป๋าสะพาย ได้ขโมยมาจากที่สนามฟุตบอลดังกล่าวจริง ส่วนเงินสดที่ได้จากการลักทรัพย์จำนวน 7,000 กว่าบาท ได้นำไปใช้หนี้และใช้จ่ายส่วนตัวอีกประมาณ 5,000 บาท สำหรับสาเหตุที่ต้องลักทรัพย์เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้จ่ายภายในครอบครัว เนื่องจากตนมีอาชีพรับจ้างเป็นครูฝึกสอนเตะฟุตบอลย่านสายไหม ประกอบกับได้เลิกกับภรรยาคนเก่าไป ต้องดูแลลูกที่เกิดกับภรรยาเก่าเพียงลำพัง หนำซ้ำต้องการนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาด้วย จึงคิดหาเงินด้วยวิธีนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวทำทีมาขอร่วมเตะฟุตบอลกับกลุ่มผู้เสียหายโดยที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน กระทั่งสบโอกาส เหยื่อชะล่าใจวางทรัพย์สินของมีค่าไว้ข้างสนาม จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติพบเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง เมื่อปี 2548 ข้อหา “ฉ้อโกง” เกิดเหตุที่ สภ.นนทบุรี ครั้งต่อมาเมื่อปี 2556 ข้อหา “ลักทรัพย์” (โทรศัพท์มือถือ) เกิดเหตุที่ สน.ดอนเมือง และเมื่อปี 2559 ข้อหา “ลักทรัพย์” (โทรศัพท์มือถือ) เกิดเหตุที่ สน.บางชัน จนมาครั้งล่าสุดแล้วถูกจับกุม อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
