หนุ่มใหญ่โทรแจ้งตร.เหตุระเบิด ที่แท้ลงมือ ‘ยิงกรอกปากเอง’ โดนดูถูกพิธีสะเดาะเคราะห์

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม ร.ต.อ.รหัสชัย ศรีสุมัง รอง สารวัตร (สอบสวน) สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุหญิงถูกระเบิดปิงปองระเบิดใส่หน้าเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 20 ซ.ร่วมมิตรพัฒนา 10 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ปบก.น.2 พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.พงษ์สิทธิ์ ปาลาพงศ์ สว.สส.สน.คันนายาว ฝ่ายสืบสวนสน.คันนายาว กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์รพ.ตร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ( EOD)

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง บริเวณใต้ถุนบ้านพบศพ นางมานิต คงวิเศษ อายุ 55 ปี สวมเสื้อลายดอก กางเกงขาสามส่วนสีดำ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้น จากการตรวจสอบพบบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณปากตั้งแต่จมูกลงมาถึงคาง เลือดนองเต็มพื้น เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในเพราะเกรงว่าจะมีวัตถุระเบิดหลงเหลืออีก จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ EOD ระบุว่าที่เกิดเหตุไม่พบสะเก็ดระเบิดหรือส่วนประกอบของวัตถุระเบิดแต่อย่างใด

จากการสอบสวนนางศศิธร เริงพงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.45 น. ตนและนางมานิต ได้เดินทางมาที่บ้านของนายวิโรจน์ สำราญเกศ อายุ 50 ปี ซึ่งตนทราบเพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตสายไหม และรับทำพิธีสะเดาะห์เคราะห์ ซึ่งตนเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกแต่นางมานิต รู้จักกับนายวิโรจน์ และเคยมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ตนและนายวิโรจน์ กำลังทำพิธีอยู่หลังบ้าน ส่วนนางมานิต นั่งรออยู่ที่ม้าหิน เมื่อเสร็จพิธีตนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าจู่ๆได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 1 ครั้งตนจึงวิ่งออกมาดูเห็นนางมานิต นั่งอยู่ที่ม้าหินมีเลือดออกบริเวณใบหน้าตนจึงวิ่งออกมาตามรถแท็กซี่ เมื่อกลับมาถึงก็เห็นนางมานิตล้มอยู่ที่พื้นบ้าน

มีรายงานข่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวิโรจน์ ที่อยู่ในสภาพเสื้อเปื้อนเลือด และนางศศิธร ไปสวบสวนที่สน.คันนายาว ใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง เบื้องต้นนายวิโรจน์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนางมานิต โดยยิงกรอกปากผู้ตาย หลังจากยิงเสร็จได้นำปืนโยนทิ้งคลองระบายน้ำหลังบ้านแล้วมาอุ้มศพไว้เพื่อให้คนที่มาพบเชื่อว่าตนเข้ามาช่วยผู้ตาย อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.เอกชัย อยู่ระหว่างการสอบสวนนายวิโรจน์ อย่างละเอียดที่สน.คันนายาว

Advertisement

พล.ต.ต.เอกชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เหตุระเบิดตามที่รับแจ้งเบื้องต้น แต่เป็นเหตุที่ผู้ต้องหาสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามาจากที่ผู้ตาย มาต่อว่าเกี่ยวกันการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ จึงลงมือก่อเหตุ ส่วนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ให้การสอดคล้องกัน แต่ที่ต้องให้การก่อนหน้านี้ว่าไม่เห็นเพราะผู้ก่อเหตุบังคับให้พูดแบบนั้น อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทั้งนี้ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานมาเก็บคราบเขม่าดินปืนผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทุกคนแล้ว และในวันที่ 30 สิงหาคม เวลาประมาณ 10.00 น.จะนำเจ้าหน้าที่ไปค้นหาปืนจุดที่คนร้ายระบุว่าโยนทิ้งต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image