ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ร.ต.อ.ชณัฐชัย วงศ์ศรีวิจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.มะนัง จ.สตูล ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้ชายคนเสียชีวิตในที่ดินสวนผสม หมู่ 5 ( บ้านผังปาล์ม 6 ) ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ญ.พัณณิตา แซ่ลิ่ม แพทย์เวร ร.พ.มะนัง และชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุ เป็นแนวรั้วลวดหนาม พบศพผู้ชายทราบชื่อ นายเอกรัตน์ ยาแลหลา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 5 ต. อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล นอนเสียชีวิตในสภาพลักษณะนอนหงายติดกับสายไฟและรั้วลวดหนาม นุ่งผ้าขาวลาย สีน้ำตาล นิ้วมือข้างซ้ายเกี่ยวติดอยู่กับสายไฟและรั้วเหล็กลวดหนาม สภาพศพขึ้นอืดพองส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบว่า มีร่องรอยการต่อสู้ และร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่า ผู้ตายน่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน จึงได้ประสานกับ นายพลวัฒน์ ยาแลหลา พี่ชายผู้ตาย มาดูศพตรวจชันสูตรศพกันอย่างละเอียดโดยไม่ติดใจเอาเรื่อง ก่อนนำศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลมะนัง แล้วส่งมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ที่เกิดเหตุนี้เป็นบ้านหลังเก่า ของนายเวียงศักดิ์ แก้วเขียว ที่กำลังทำการรื้อถอนบ้าน เพื่อนำไม้ไปทำการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 150 เมตรเศษ โดยภรรยา นายเวียงศักดิ์ ระบุว่า สายไฟที่พันลากเกี่ยวกับเหล็กลวดหนามรั้วบ้านนั้น นายเวียงศักดิ์ เป็นผู้ลากพันเอง และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ภายในบ้านริมรั้วลวดหนามมีต้นใบพืชกระท่อมอยู่ 1 ต้น น้ำหนักประมาณ 43 กิโลกรัม โดยแนวทางการสอบสวน พบว่า ที่ต้นกระท่อมดังกล่าวนี้มีกลุ่มวัยรุ่นลอดรั้วเหล็กหนามเข้าไปขโมยใบพืชกระท่อมดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งจนทำให้เจ้าของบ้านนำสายไฟมาลาดพันติดกับรั้วบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้วัยรุ่นขโมยใบท่อม
เบื้องต้นสันนิฐานว่า ผู้ตายน่าจะเข้าไปในที่เกิดเหตุดังกล่าวเพื่อลักใบท่อม แต่เจ้าของสวนปล่อยกระแสไฟไว้ที่ลวดหนามผู้ตายจับสายลวดหนามสายไฟเลยช็อตตายดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดต้นใบพืชกระท่อมดังกล่าวไว้เป็นของกลาง และจะได้สืบสวนสอบสวน นายเวียงศักดิ์ เจ้าของบ้าน พร้อมแจ้งข้อหากระทำความผิดในฐาน ผลิต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย แต่ในวันนี้ นายเวียงศักดิ์ เจ้าของสวนไปทำธุระนอกบ้านจึงไม่ได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำ
