อาเซียนจับมือ ต้านอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 21 กันยายน เนื่องจากยุค 4.0 การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเป็นไปแบบก้าวกระโดด ทำให้การติดต่อข้ามประเทศง่ายดายแค่ปลายนิ้ว สะดวก รวดเร็ว และประหยัด ย่อโลกใบเดิมให้เล็กลง การติดต่อสื่อสารข้ามประเทศ ทำได้ภายในเสี้ยวนาที ทำให้ในปัจจุบันมีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากด้านการสื่อสารแล้ว การคมนาคมเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พัฒนาไปมากในยุค 4.0 การเดินทางระหว่างประเทศทำได้สะดวก โดยเฉพาะการเดินทางในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ระยะทางไม่ไกลนัก ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ทำให้ปริมาณการเดินทางของประชากรในกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตการพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อประเทศอาเซียน เหมือนที่เกิดขึ้นแล้วในกลุ่มประเทศยุโรป ที่ใช้การเดินทางด้วยรถไฟทีจีวีเป็นหลัก จะยิ่งทำให้การเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนเพิ่มมากขึ้นไปอีก

อาชญากรข้ามชาติในยุค 4.0 มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ วิธีการ อย่างรวดเร็ว เครือข่ายองค์กรโยงใยหลายประเทศ หลายทวีป ตัวอยู่ประเทศหนึ่ง สั่งการผ่านเครือข่ายเชื่อมโยงหลายประเทศ ทรัพย์สินที่ได้มานำไปฟอกเงินในอีกประเทศหนึ่ง องค์กรอาชญากรรมมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ยิ่งในยุคนี้ อาชญากรรมข้ามชาติอาศัยการเทคโนโลยีการสื่อสาร และคมนาคม ในการกระทำความผิดข้ามประเทศ เช่น เครือข่ายยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนสแกมซ์ ขบวนการค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การหลอกลวงซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ ทำให้การจับกุมจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ

ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการจับกุมอาชญากรข้ามชาติคดีสำคัญเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อคดีในประเทศไทย แล้วหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ คดีเสี่ยอ้วนฆ่าโหดน้องสปาย คดีฆ่าไฮโซสาวเชอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถติดตามตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (ASEAN Senior Officials Meeting on Transnational Crime – SOMTC) เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อสร้างภาคีเครือข่ายต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 18 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-28 กันยายน ณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งรับผิดชอบงานด้านกิจการต่างประเทศ เคยสร้างผลงานจับกุมอาชญากรรมข้ามชาติคดีสำคัญหลายคดี และมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าหน้าระดับอาวุโสของประเทศเพื่อนบ้าน เป็นหัวหน้าคณะ

Advertisement

การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากในปี 2562 ที่กำลังจะมาถึง ไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานอาเซียนต่อจากสิงคโปร์ โดยจะมีพิธีส่งมอบการเป็นประธานอาเซียนให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ในเดือน พ.ย.ที่จะถึงนี้ ตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ค.ศ. 2025 (APSC Blueprint 2025) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อาเซียน ค.ศ. 2025 ได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ให้มีความเป็นหนึ่ง และแข็งแกร่ง

บทบาทของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน จึงเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคง เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชากรในประเทศอาเซียน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image