เมื่อวันที่ 24 มกราคม นายปุญชรัสมิ์ วราพงศ์พิศาล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรี เปิดเผยถึงคดีรอบปี 2558 ที่ผ่านมาว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีได้รับคดีฟ้องใหม่รวม 30,886 คดี ซึ่งแยกเป็นคดีความแพ่ง 20,711 คดี และคดีความอาญา 10,175 คดี มีคดีความค้างเก่าจากปี 2557 จำนวน 5,333 คดี ขณะที่ศาลได้พิจารณาพิพากษาเสร็จสิ้น 28,192 คดี คงค้างอยู่จำนวน 8,027 คดี หรือสำเร็จคิดเป็นร้อยละ 77.8 ของคดีทั้งหมด สำหรับประเภทคดีความแพ่งที่เกิดขึ้นสูงสุด 3 อันดับ คือ กู้ยืม/ค้ำประกัน, คดีผิดสัญญาบัตรเครดิต และเช่าซื้อ ส่วนคดีอาญาที่เกิดขึ้นสูงสุด 3 อันดับ คือ คดีความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก, คดีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ (เมทแอมเฟตามีน) และความผิด พ.ร.บ.การพนันฯ
นายปุญชรัสมิ์กล่าวอีกว่า ศาลจังหวัดมีนบุรีได้ดำเนินการตามนโยบายของประธานศาลฎีกาและสำนักงานศาลยุติธรรม ที่นำระบบการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทมาใช้ในการบริหารจัดการคดีของศาล เป็นผลให้ปี 2558 ที่ผ่านมา มีคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย จำนวน 3,441 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 3,039 คดี คิดเป็นร้อยละ 88.3 ทุนทรัพย์ที่ไกล่เกลี่ยสำเร็จมีจำนวนสูงถึง 1,699,368,226 บาท ส่วนคดีอาญาที่เข้าสู่กระบวนการสมานฉันท์ 1,654 คดี ดำเนินการสมานฉันท์สำเร็จ จำนวน 607 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 36.69
นายปุญชรัสมิ์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการบริหารจัดการด้านบริการคู่ความและประชาชนให้ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อราชการกับศาลนั้น ศาลจังหวัดมีนบุรีได้อำนวยความสะดวกแก่คู่ความในคดีร้องขอจัดการมรดก โดยจัดองค์คณะผู้พิพากษาดำเนินการไต่สวนคดีร้องขอจัดการมรดกให้เสร็จสิ้นโดยเร็วในวันเดียวที่นัดไต่สวน และคู่ความสามารถขอรับคำสั่งเพื่อไปดำเนินการในเรื่องมรดกได้ในวันเดียวกันนั้นด้วยนอกจากนี้ศาลจังหวัดมีนบุรียังได้ปรับรูปแบบการให้บริการในเรื่องขอคัดถ่ายเอกสารของคู่ความให้สามารถขอรับเอกสารที่ขอคัดถ่ายได้ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่คู่ความและประชาชนที่มีอรรถคดีให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปติดต่อราชการกับศาลอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับศาลจังหวัดมีนบุรีนั้นมีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ในเขต กทม. รวม 9 เขต ประกอบด้วย เขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา เขตคันนายาว เขตสายไหม เขตสะพานสูง เขตบางเขน (แขวงท่าแร้งและเขตลาดพร้าว (แขวงจระเข้บัว))
