จากเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทใช้อาวุธสงครามยิงใส่กันจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ที่เกิดเหตุย่านประตูน้ำ บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน ซอยราชปรารภ 2 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พื้นที่ สน.พญาไท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ตุลาคม เบื้องต้นชุดสืบสวนพบสาเหตุเกิดจากการทะเลาะของกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นกับวัยรุ่นถิ่นอื่นที่มาเล่นสนุกเกอร์ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 ตุลาคม ที่ สน.พญาไท พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.1 และฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท เพื่อติดตามความคืบหน้าและวางแนวทางการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีนี้
ภายหลังประชุมร่วม 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.คัชชากล่าวว่า ขณะนี้สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้หนึ่งคน คือนายปรีชา ศักดิ์อุดมไพศาล หรือตั้ม อายุ 28 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุหลัก เบื้องต้นให้การรับสารภาพแล้ว นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบว่ามีผู้ก่อเหตุอีกเป็นจำนวนมาก และวันนี้จะเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 คน
“ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุประมาณ 4 ตัว ส่วนประเด็นเป็นลูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลนั้นไม่เป็นความจริง สาเหตุทราบว่ามาจากนายบำเพ็ญ หรือม็อก พุ่มพวง อายุ 44 ปี เจ้าถิ่นเคยส่งลูกน้องมาข่มขู่นายปรีชาหลายครั้งเนื่องจากไม่พอใจที่มาคุมโต๊ะสนุกเกอร์ใหม่ จึงเกิดเหตุการณ์ยิงถล่มมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว” รรท.รอง ผบช.น.กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวแก่นายปรีชา ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยนายปรีชาเป็นหนึ่งในผู้ดูแลโต๊ะสนุกเกอร์ในสถานที่เกิดเหตุและมีเรื่องกับกลุ่มคู่อริที่เดินทางมาเล่นสนุกเกอร์ในวันดังกล่าว โดยนายปรีชาได้เดินทางมามอบตัวด้วยตัวเองที่ สน.พญาไท ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. กล่าวอีกว่า นายปรีชาได้เข้าให้ถ้อยคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวและสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้จะมีการเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีที่ สน.พญาไท เวลา 20.00 น.
วันเดียวกันที่กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่เหลือทั้งสองกลุ่มอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับทั้งหมด โดยพบว่าในวันเกิดเหตุมีผู้ต้องหามากกว่า 5 คน ซึ่งเป็นความขัดแย้งกันของสองกลุ่ม ส่วนเรื่องอาวุธปืนนั้นต้องรอตรวจยึดได้เสียก่อน จึงจะบอกได้ว่ามาจากที่ใด นอกจากนี้ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการลงมาให้เร่งรัดติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว
