ครบรอบ 103 ปี กรมราชทัณฑ์ ‘อธิบดีณรัชต์’ ย้ำเร่งผลักดันสร้างอาชีพให้นักโทษหลังพ้นคุก

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม ที่กรมราชทัณฑ์ ​พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในพิธีจัดงานวันสถาปนาครบรอบ 103 ปี กรมราชทัณฑ์ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน และข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ พิธีพราหมณ์ บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีสงฆ์ ตลอดจนการจัดนิทรรศการแสดงผลงานนวัตกรรม และการแสดงของผู้ต้องขังจากเรือนจำ ทัณฑสถาน

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้งกรมราชทัณฑ์ขึ้น เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2458 ปัจจุบันเป็นปีที่ 103 ซึ่งในวันนี้ คณะข้าราชการในสังกัดได้ร่วมสมัครสมานฉันท์บำเพ็ญกุศลน้อมถวายราชสักการะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งคณะข้าราชการกรมราชทัณฑ์ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้ขอ พระบรมราชานุญาต จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่านประดิษฐานหน้าอาคารที่ทำการ กรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เหล่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอเนกประการที่ทรงวางรากฐานการสถาปนาขึ้นเป็น “กรมราชทัณฑ์” อันเป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติตราบทุกวันนี้

Advertisement

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 103 ปีที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง โดยให้ความสำคัญถึงสภาพความเป็นอยู่ผู้ต้องขังในเรือนจำแม้ในปัจจุบันเกิดปัญหา “ผู้ต้องขังล้นคุก” ซึ่งมีผลต่อการบริหารจัดการเรือนจำ การดูแลสวัสดิการและดูแลผู้ต้องขังทำได้ยากลำบาก ไม่สามารถควบคุมวินัยผู้ต้องขัง หรือสร้างอาชีพให้ผู้ต้องขังได้เต็มที่ โดยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่เรือนจำมีไม่เพียงพอ สถานที่แออัด และจำนวนผู้ต้องขังที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งภารกิจหลักของเรือนจำ ทัณฑสถาน จะต้องควบคุมบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม และอบรมขัดเกลาให้คนกระทำผิดกลับใจเป็นพลเมืองดีของ สังคม พร้อมขับเคลื่อนในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษ รวมถึงครอบครัวผู้ต้องขังให้มีอาชีพสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการให้ผู้ต้องขังได้มีอาชีพในระหว่างที่ต้องโทษและภายหลังจากพ้นโทษ โดยการผลักดันแนวทางการเตรียม ความพร้อมก่อนปล่อยด้านแรงงานอุตสาหกรรมใน 2 รูปแบบ ได้แก่ การนำผู้ต้องขังออกไปทำงานในสถานประกอบการนอกเรือนจำ และการอนุญาตให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนภายในเรือนจำ ตลอดจนเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษแล้ว กรมราชทัณฑ์ยังได้จัดตั้งศูนย์ Care เพื่อให้เป็นศูนย์การประสานงานและช่วยเหลือผู้พ้นโทษให้มีงานทำทั้งขณะต้องโทษในเรือนจำ และการนำความรู้จากการอบรมวิชาชีพไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้พ้นโทษในด้านต่างๆ ให้สามารถช่วยเหลือตนเอง ไม่เป็นภาระแก่ครอบครัวและสังคม และไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ และเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในการให้หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมบูรณาการการทำงานเพื่อพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้กระทำผิดอย่างยั่งยืน

Advertisement


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้เรียกประชุมผู้บริหารเรือนจำทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบาบและกำชับข้อสั่งการต่างๆ ได้เป็นไปตามเป้าหมายรวมถึงการบริหารจัดการเรือนจำ การควบคุมผู้ต้องขัง นอกจากนี้ยังมีการประชุมชมรมแม่บ้านราชทัณฑ์ ซึ่งมีนางนวลพรรณ ล่ำซำ ภริยา พ.ต.อ.ณรัชต์ มาร่วมประชุมด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image