น.1ย้ำสอบร.ต.ท.ขี่บิ๊กไบค์ขึ้นสะพานภูมิพล 1 วอนทำโพลล์สำรวจกรณีจยย.ร้องเลิกห้ามขึ้นสะพาน-ลอดใต้อุโมงค์

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.เปิดเผยความคืบหน้าร.ต.ท.ชัยยัณห์ ทองคำชุม อายุ 31 ปี รองสวป.สน.ลาดพร้าว ขับรถจักรยานยนต์(จยย.)บิ๊กไบค์ ประสบอุบัติเหตุบริเวณถนนทางแยกบนสะพานภูมิพล 1 ทำให้ น.ส.ขวัญฤทัย ชัยนาคิน อายุ 23 ปี แฟนสาวร่วงลงถูกรถทับเสียชีวิตว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน กรณีความผิดทางอาญา โดยให้พนักงานสอบสวนสภ.พระประแดง เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งคงจะเป็นเรื่องกรณีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ส่วนของโทษความผิดทางวินัยก็ต้องดูว่า ร.ต.ท.ชัยยัณห์ ควรจะรู้หรือไม่ว่ามีข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรห้ามรถจยย.ขึ้นสะพานมีประกาศของเจ้าพนักงานจราจร การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยวิศวกรรมจราจร ไม่ควรที่จะให้มีรถจยย.ขึ้นไปบนสะพานเพราะอาจจะเกิดอันตราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควรจะรู้และยังฝ่าฝืนทำให้เกิดเหตุขึ้นมาให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงว่ามีความผิดทางวินัยหรือไม่ ถ้ามีก็เห็นควรจำเป็นจะต้องดำเนินการไปตามระเบียบกฎหมาย ก็คงจะต้องดำเนินการไปตามวิถีทาง

ผู้สื่อข่าวถามว่าว่ามีการตั้งคณะกรรมหรือเรียก ร.ต.ท.ชัยยัณห์ มาให้ปากคำหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งกานพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 และทาง พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว รีบดำเนินการ เนื่องจากพี่น้องประชาชนให้ความสนใจ แต่นโยบายของตนเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นต้องดำเนินการด้วยความเร็วรวด คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเหตุเกิดขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยให้โอกาสและความยุติธรรมทุกฝ่าย เบื้องต้นทราบว่า ร.ต.ท.ชัยยัณห์ พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล วันนี้จะออกจากโรงพยาบาล ก็ต้องมารายงานเพื่อชี้แจงทันที ถ้าถูกดำเนินคดีต้องรายชี้แจงว่าถูกต้องคดีภายใน 3 วัน ฝากเป็นอุทาหรณ์ว่า ยิ่งเราเป็นเจ้าหน้าที่คงจะต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นที่จะทำอะไรก็ตาม อย่าให้เกิดความเสียหายทั้งทางวินัยและอาญา ผู้บังคับบัญชาก็ไม่อยากดำเนินการอะไร แต่ก็ต้องยึดหลักการไว้ ถูกต้องต้องมาก่อนความถูกใจเพื่อให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ขับขี่จยย.ไปร้องศาลปกครองกลางเกี่ยวกับทางตำรวจนครบาลปฏิบัติตามข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรห้ามรถจยย.ขึ้นสะพานและลงอุโมงค์ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นสิทธิ์ของประชาชนทุกคน ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เมื่อกฎหมายรองรับ ท่านก็ใช้ช่องทางของท่าน ตนก็ไม่ได้กังวลใจ ท่านก็ใช้สิทธิ์ของท่านโดยชอบไม่ใช่การชุมนุมประท้วงอย่างไรก็ตาม อยากจะกราบเรียนว่า อยากให้ทุกคนมีความสุข โดยเฉพาะคนกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะยากดีมีจน มีเงินหรือไม่มีเงิน ยิ่งระดับผู้ใช้แรงงานยิ่งให้ความสำคัญมากกว่าคนมีเงินด้วยซ้ำ เมื่อการทำงานต้องยึดโยงประโยชน์ส่วนรวม บางอย่างควรจะต้องเสียสละ อาทิ กรณีการออกกฎหมายสวมหมวกนิรภัยก็มีคนประท้วงไม่ยอม อ้างเหตุผลเป็นภาระผู้ขับขี่จยย. แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุใครได้ประโยชน์ เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ต้องมองอีกด้านหนึ่งว่า มีผู้ร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับผู้ขับขี่ใช้ถนนบริเวณสะพานภูมิพล ซึ่งก็รับฟัง หากเกิดอุบัติเหตุลักษณะดังกล่าวใครเดือดร้อน

เมื่อถามถึงข้อโต้แย้งในการออกข้อบังคับดังกล่าวไม่ผ่านการวิจัยชี้แจงว่าสะพานใดมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นอย่างไร พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนรับฟัง อยากจะกราบเรียนพี่น้องผู้ขับขี่รถจยย. ทุกท่านว่า จะรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อหาหนทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่จะทำให้ท่านเดือดร้อนน้อยลง เพื่อให้ทางแก้ไขให้ท่าน และต้องมองไปถึงทุกคนด้วย ไม่ใช่เอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่า ไม่เคยทอดทิ้งท่าน ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวมอบหมายให้ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงศักดิ์ รองผบช.น.ดูแลการออกกฎข้อบังคับดังกล่าว แต่ฐานะที่เป็นผู้บริหารยินดีที่นำเอาสิ่งเหล่านี้มาดูเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างแท้จริง อยากขอความร่วมมือหน่วยงานที่จัดทำโพลล์สำรวจช่วยดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน นอกจากเอาวิศรกรรมด้านการจราจรหรือปัญหาที่พบอยู่บ่อยครั้งเกิดอุบัติเหตุ อย่างกรณีขับรถจยย.ขึ้นสะพานทำให้เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต ตัวผู้ขับขี่ก็เจ็บ ถ้าคิดว่าไม่เป็นไรเราก็รับฟัง ส่วนผลที่ได้ทดลองการออกข้อบังคับการจราจรดังกล่าวนั้น จากการสอบถามสถิติที่เรามีอยู่ไม่ปรากฏว่ามีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น แต่กรณีที่มีการสอบถามมาก็จะนำไปพิจารณาเพื่อทำให้ทุกฝ่ายเกิดความพอใจ ไม่ใช่พอใจเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง