“บิ๊กจูดี้”แจงนายกฯ ใช้ม. 44 ให้อำนาจเบ็ดเสร็จ ผบ.ตร.ตั้ง สว.-รองผบก. ยันเสร็จทัน 30 เม.ย.

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 26 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาเหตุผลความจำเป็นในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร (สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2558 พร้อม พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคล้าม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผบช.สง.ก.ตร. และพล.ต.ต.สรไกร พูนเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร แถลงชี้แจงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่ง หน.คสช.ที่ 23/2559 ลงวันที่ 26 เมษายน 2559 โดยอาศัยความตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร(สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รองผบก.) วาระประจำปี 2558 ว่า เดิมทีในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ในวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ผบ.ตร.ใช้อำนาจตามมาตรา 56 ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ สว.-รองผบก.วาระประจำ ปี 2558 โดยกำหนดเงื่อนไขพิเศษ 5 ข้อ แต่เนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดังกล่าวได้มีการขยายเวลามาหลายครั้ง ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ มีความห่วงใยการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว.เนื่องจากตำรวจระดับนี้ ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ หากการแต่งตั้งล่าช้ามานานและหากต้องล่าช้าออกไปอีก จะส่งผลกระทบขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจ อาจจะส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ โดยนายกรัฐมนตรี ให้นโยบายมาชัดเจนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนี้ต้องแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

จูดี้แถลง ม.44 เพิ่ม

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายเสร็จสิ้นตามกรอบเวลาภายในวันที่ 30 เมษายน นี้ หากผบ.ตร.ใช้อำนาจตามมาตรา 56 จะติดขัดเรื่องการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ต่างๆ ต้องนัดประชุม ก.ตร.อีกหลายครั้งหลายวาระ เนื่องจากการแต่งตั้งขึ้นข้ามหน่วย หรือยกเว้นหลักเกณฑ์จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จึงได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนำเรียนถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกรัฐมมนตรี เห็นชอบตามที่ผบ.ตร.เสนอในการใช้มาตรา 44 เพื่อทำให้การแต่งตั้งเกิดขึ้นได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนดไว้

“การใช้มาตรา 44 ทำให้กระบวนการแต่งตั้งสั้นลง สามารถดำเนินการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จในกรอบเวลาได้ แต่หากใช้อำนาจตามมาตรา 56 ยังจะต้องนำเข้าสู่วาระการประชุม ก.ตร.อีกหลายครั้ง อาจต้องขยายเวลาออกไปอีกไม่น้อยกว่า 30 วัน ตรงนี้จะขัดกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มองว่าการแต่งตั้งไม่ควรจะเนิ่นช้าออกไปอีก เพราะขณะนี้เกินครึ่งปีแล้ว เรื่องนี้กระทบโดยตรงต่อการทำงาน อย่างตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างหัวหน้าสถานีตำรวจไม่มีคนไปแทน ต้องตั้งคนไปรักษาราชการแทนไปก่อน คนทำงานอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกโยกย้ายเมื่อใด ตรงนี้กระทบโดยตรงต่อการทำงาน ที่สำคัญกระทบต่อการบริการประชาชน เรื่องนี้นอกจากเกี่ยวพันต่อขวัญกำลังใจของข้าราชการตำรวจแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจในระบบการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ว่าเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นส่วนหนึ่งในความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ในการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลอยู่แล้ว หากตำรวจได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง การแต่งตั้งมีประสิทธิภาพ การแต่งตั้งเป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง สามารถปูนบำเหน็จให้คนทำงานมีความก้าวหน้า และหากการแต่งตั้งเป็นไปตามกรอบเวลา จะทำให้การทำงานของตำรวจมีประสิทธิภาพ มีขวัญกำลังใจ และเป็นไปตามจุดมุ่งหมายของรัฐบาลที่ต้องการให้ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการดูแลปัญหาบ้านเมือง ฉะนั้นการใช้มาตรา 44 เป็นตามความตั้งใจของ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้การบริหารบุคคลมีประสิทธิภาพ สร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจระดับล่าง ทำงานใกล้ชิดประชาชน” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว

Advertisement

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ ผบ.ตร.จะออกหลักเกณฑ์ และวิธีการแต่งตั้ง คาดว่าภายในวันที่ 27 เมษายนนี้ จะสามารถออกหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง หลักเกณฑ์ตรงนี้สามารถตรวจสอบได้ โดยหลักการจะยึดแนวทางการ และวิธีการแต่งตั้งเดิม คำนึงถึงความเป็นธรรม และสิทธิประโยชน์ที่ตำรวจเคยได้รับจะไม่หายไป หลังจากนั้นจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตามแม้ ผบ.ตร.จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการแต่งตั้ง โดยไม่ต้องเข้าก.ตร.อีก แต่จะมีการเปิดโอกาสให้ ผบช.แต่ละหน่วยเข้ามามีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งด้วย ยืนยันว่าจะดำเนินการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ผบ.ตร.ให้คำมั่นว่าการแต่งตั้งครั้งนี้จะคงไว้ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ตำรวจควรได้รับ มีความเป็นธรรม คนทำงานจะได้รับการปูนบำเหน็จ เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจในภาพรวม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image