รองผู้ว่าฯภูเก็ตนำกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กว่า 200 นาย เข้ารื้อถอนร้านอาหารบนที่สาธารณะหาดเลพัง-ลายัน ใช้เวลาเจรจากับผู้ครอบครองร้านกว่า 1 ชั่วโมงจึงดำเนินการได้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 เมษายนนี้ นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเลพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือทัพเรือภาค 3 ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เทศกิจรวมกว่า 200 นาย นำเครื่องจักรลงพื้นที่หาดเลพัง-ลายัน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้าเตรียมทำการรื้อถอน ร้านอาหารในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 8 แห่งที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะตามนโยบายการจัดระเบียบชายหาดคืนพื้นที่สาธารณะของ คสช.ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 2557 ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตดำเนินการมาเกือบครบทุกชายหาดแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ได้เข้ารื้อถอนร้านอาหารชายหาดสุรินทร์แล้วกว่า 30 ร้าน
อย่างไรก็ตาม การเข้าดำเนินการรื้อถอนวันนี้จุดแรกคือร้านโทนี่ ซีฟู๊ด ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่สุดในจำนวน 8 ร้านดังกล่าวแต่ขณะเตรียมเข้าทำการรื้อถอนนั้น นายกนกพล สมรักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านพร้อมพวกได้เอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับร้านเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการผิดกฎหมายโดยระบุว่าอยู่ระหว่างการยื่นร้องศาลปกครอง
ขณะทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้พยายามชี้แจงข้อมูลของฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งระบุว่า ตามที่ทางเจ้าของร้านร้องศาลปกครอง 3 ข้อคือ ร้อง 1.นายก อบต.เชิงทะเล กรณีทางร้านยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแต่ทาง อบต.ไม่ตอบรับคำยื่นและไม่ให้เหตุผลใดๆ 2.ร้องขอให้ระงับคำสั่งรื้อถอนอาคาร 3.ร้องขอคุ้มครองการรื้ออาคารถอนชั่วคราว โดยศาลรับคำร้องเพียงข้อแรก ส่วน 2 ข้อหลังไม่รับคำร้อง ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการรื้อถอนตามกฎหมายโดยใช้เวลาเจรจากว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น.เจ้าหน้าที่จึงเริ่มนำกำลังเข้าทำการรื้อถอนและให้คนงานภายในร้านขนของออก
นายมาแอน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า การเข้ารื้อถอนร้านอาหารบริเวณหาดเลพัง-ลายัน ในครั้งนี้มีทั้งหมด 10 ร้านแต่วันนี้จะทำการรื้อถอนแค่ 8 ร้านเนื่องจากอีก 2 ร้านอยู่ระหว่างการร้องศาลปกครองต้องรออีกประมาณ 30 วัน สำหรับพื้นที่ทั้งหมดมีจำนวน 178 ไร่หลังรื้อถอนเสร็จสิ้นจะปรับเป็นชายหาดสาธารณะให้ประชาชนใช้ร่วมกันและขณะนี้อยู่ระหว่างที่จังหวัดดำเนินการขอออกที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดิน นสล.
