เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 เมษายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาพร้อมบิดามารดาและญาติของบุคคลที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทหารปล่อยตัว นายนพเก้า คงสุวรรณ , นายศุภชัย สายบุตร , น.ส.วรารัตน์ เหม็งประมูล(สงวนชื่อจริง) และนายหฤษฎ์ มหาทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญามาตรา 90 หลังถูกคุมตัวไปที่ มทบ.11 โดยมิชอบ
โดยมีคำร้องของผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 4 สรุปว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น.มีเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้าควบคุมตัวบุคคลทั้ง 4 ดังกล่าวที่มีสถานที่ต่างกันในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครและจังหวัดขอนแก่น โดยที่ไม่มีการแสดงหมายจับ หรือหมายค้น โดยที่เป็นการเข้าคุมตัวในที่พักอาศัยขณะที่บุคคลทั้ง 4 กำลังพักผ่อนอยู่ โดยหลังจากควบคุมตัวแล้วก็ไม่มีการระบุว่านำตัวบุคคลทั้ง 4 ไปคุมขังยังสถานที่ใด ซึ่งในการควบคุมตัวดังกล่าวนั้นไม่มีทนายความหรือญาติของบุคคลทั้ง 4 ทราบถึงสถานที่คุมขัง ถือเป็นการควบคุมตัวโดยที่ไม่ทราบชะตากรรม ที่ไม่รู้ว่าผู้ถูกควบคุมตัวมีความปลอดภัยในร่างกายและจิตใจหรือไม่ เพียงแต่รับทราบในภายหลังจากที่มีการแถลงข่าวจากเจ้าหน้าที่ทหารว่าบุคคลทั้ง 4 คนถูกคุมขังอยู่ที่ มทบ.11 โดยทางญาติของผู้ถูกควบคุมตัวมีการติดต่อเพื่อขอเยี่ยมแต่ไม่ได้รับการอนุญาต ผู้ร้องจึงมาร้องต่อศาลเนื่องจากเห็นว่าอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐย่อมสามารถถูกตรวจสอบได้โดยศาล มิเช่นนั้นการใช้อำนาจดังกล่าวจะเป็นการใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จและเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่รัฐในการจับกุมควบคุมตัว จึงขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวมาซักถามถึงการควบคุมตัวและมีคำสั่งให้ปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมดตามคำร้อง
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนพยานผู้ร้อง ต่อมาทนายผู้ร้องได้แถลงศาลว่าขณะนี้ญาติของผู้ถูกควบคุมตัวมาในวันนี้ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามเนื่องจากได้ยินข่าวว่าจะมีการนำตัวผู้ถูกควบคุมไปแถลงยังกองปราบจึงขอให้ศาลไต่สวนทนายผู้ร้องแทน ซึ่งหลังจากศาลไต่สวนทนายผู้ร้องทั้ง 2 ปากแล้วต่อมา เวลา 16.00 น.ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าคดีมีมูลหรือไม่ในวันที่ 29 เมษายน เวลา 10.00 น.
ต่อมาภายหลัง น.ส.ภาวิณี ทนายความกล่าวว่า ศาลได้นัดฟังคำสั่งวันที่ 29 เมษายน ว่าคดีมีมูลหรือไม่ ซึ่งหากคดีมีมูลศาลจะรับไว้พิจารณาและออกหมายเรียกตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวมาไต่สวน แต่ถ้าฟังแล้วไม่มีมูล ศาลก็จะยกคำร้อง
