ตร.ลำปางรวบโจ๋เลี้ยงช้างเลือดร้อน ฉุนถูกเตือนแรงห้ามเข้าใกล้พลายดุ ชักปืนยิงควาญพม่า

 เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 30 เมษายน ร.ต.ท.รุ่งเรืองชัย อุปกาละ พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำนายเอ(นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงช้างของปางช้างแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่  ทำแผนประกอบสำนวน หลังถูกจับกุมในการก่อเหตุในโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เวลา 00.15 น. นายเอ ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายลามิน หรือลาแม (ไม่มีนามสกุล) อายุ 33 ปี สัญชาติพม่า มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย  คนงานเลี้ยงช้างภายในโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง  ได้รับบาดเจ็บกระสุนเข้าไปที่ขาทั้ง 2 ข้าง และหน้าท้อง ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำปาง อาการปลอดภัยแล้ว

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อกลางดึกนั้น ขณะที่ นายลามิน ได้เฝ้าช้างและดูแลช้างพลายโบโบ้ เพศผู้ อยู่ที่โรงเลี้ยงช้าง ปรากฏว่านายเอได้พยายามเดินเข้าใกล้ช้างพลายโบโบ้ ที่นายลามิน เป็นพี่เลี้ยงดูแลช้างเชือกนี้ ก่อนที่จะบอกเตือนไปว่า ห้ามเข้าใกล้เพราะช้างมีนิสัยที่ดุ และอาจจะเป็นอันตรายขึ้นได้ แต่นายเอไม่เชื่อฟัง และยังพยายามเข้าใกล้ นายลามินจึงใช้หนังสติ๊กยิงเข้าใส่ จากนั้น นายเอก็ได้เดินกลับไป ก่อนไปนำอาวุธปืนลูกซองยาว แบบไทยประดิษฐ์ มายิงใส่ 1 นัด วิถีกระสุนซึ่งเป็นลูกปรายจึงทำให้เข้าขา และตามร่างกายของ นายลามิน  ก่อนนายเอจะทิ้งอาวุธปืนไว้ในจุดเกิดเหตุ และหลบหนีออกไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ ขณะที่กำลังยืนโบกรถอยู่ริมถนนสายลำปาง เชียงใหม่

201604301125432-20110510201751

นายเอ ให้การว่า ไม่ตั้งใจยิง เพียงแต่จะยิงกระรอกที่วิ่งผ่านบริเวณดังกล่าว แต่กระสุนที่ยิงออกไปได้ไปถูก นายลามิน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การ ซึ่งน่าจะเกิดความโกรธแค้น และไม่พอใจที่ถูกตักเตือน และถูกยิงหนังสติ๊ก ก่อนที่จะนำอาวุธปืนที่ซุกซ่อนมาขณะนำช้างมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และนำมายิงผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายหลายข้อหา ทั้งมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครัว โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนพยายามทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

Advertisement

ด้าน นางสาวโซไรดา ซาวาลา ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลช้างแห่งนี้ ที่ตั้งมานานกว่า 30 ปี ในการอนุรักษ์ และดูแลช้าง ซึ่งในเขตโรงพยาบาลช้างแห่งนี้จะมีกฏไม่ให้พกพาอาวุธ หรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามา เพราะเป็นสถานที่อนุรักษ์ และรักษาช้าง แต่ทว่า ควาญช้างคนนี้ ซึ่งเป็นคนนอกกลับได้พกพาอาวุธปืนเข้ามา โดยไม่ทราบสาเหตุว่าพกเข้ามาทำไม และด้วยสาเหตุใด ซึ่งหากไม่เกิดเรื่องราวขึ้น ก็ไม่ทำให้ทราบว่า มีการนำอาวุธปืนซุกซ่อนมาอยู่ภายในพื้นที่โรงพยาบาลช้างด้วย นับเป็นความรุนแรงมาก จากนี้ไปคงจะต้องมีการแจ้งเตือน และตรวจสอบให้รัดกุมต่อผู้ที่นำช้างเข้ามารักษา และพัก ในช่วงรอการรักษาช้าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก โดยเฉพาะจะต้องมีการตรวจสอบ และกวดขันให้รัดกุม ในการลักลอบนำอาวุธ หรือสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามา  

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image