จัดชุดล่า ‘ด.ต.ธรรมศาลา’ ปืนดุยิงเพื่อนบ้านดับ สั่งให้ออกราชการ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ฮึ่มฟันวินัย-อาญาเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนยิงชายข้างบ้านเสียชีวิตในพื้นที่ สน.ธรรมศาลา ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ธรรมศาลา ว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เวลา 22.00 น. ได้รับแจ้งเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตบริเวณบ้านเช่าภายในชุมชนศรีมณฑลสามัคคี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ผกก.สน.ธรรมศาลา พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบศพนายเกรียงศักดิ์ ศรทอง อายุ 35 ปี นอนเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนพร้อมแพทย์จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตาย รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยาน ถ่ายภาพ ทำแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย (ย้อนอ่าน : ตร.ปืนดุ! รัวกระสุนใส่หนุ่มข้างบ้านดับสยอง ฉุนเสียงท่อ จยย.ดังขัดใจ)

“จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตทำงานส่งหมูกระทะ ได้มาพักอาศัยอยู่บ้านเช่าที่เกิดเหตุแล้วมีปากเสียงกับเพื่อนบ้าน ทราบภายหลังคือ ด.ต.ศิริมงคล กองสุข ผบ.หมู่งานจราจร สน.ธรรมศาลา ต่อมา ด.ต.ศิริมงคลได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายเกรียงศักดิ์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ ด.ต.ศิริมงคลได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทั้งนี้ ในวันนี้กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุออกจากราชการไว้ก่อน และดำเนินการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป” รองโฆษกตร.กล่าว และว่า สันนิษฐานในการก่อเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการทะเลาะกัน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป จนกว่าจะสอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น และยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลการตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุและจัดชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

“ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ท่านกำชับให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเสียเองก็ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด และกำชับผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในสังกัดคอยสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมา ผบ.ตร.สั่งการมาโดยตลอดว่าตำรวจต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไปปฏิบัติหน้าที่เหลื่อมล้ำกับกฎหมาย การประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมหรือกระทำความผิดต่อกฎหมาย เป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อองค์กร ตำรวจในยุคนี้ต้องพร้อมรับการตรวจสอบจากประชาชน เพราะฉะนั้นตำรวจทุกนายต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเองและองค์กร ให้พี่น้องประชาชนเกิดความเชื่อมั่น” พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image