กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พบข้าราชการสำนักงาน ปปง. มีพฤติการณ์เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถูกสำนักงาน ปปง. ตรวจสอบเกี่ยวกับการลักลอบเล่นการพนันสกุลเงินดิจิทัล โดยข้าราชการดังกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือทางคดีและมีการเรียกรับเงินจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งทางปปง.ออกมายอมรับว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเป็นข้าราชการ ปปง. ในตำแหน่งระดับปฏิบัติการ กองคดี 1 ดูแลรับผิดชอบคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ไม่ใช่ระดับผู้อำนวยการส่วนตามที่กล่าวอ้าง โดยสำนักงาน ปปง. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายอัจฉริยะ เข้าพบ พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ ผกก.(สอบสวน)บก.ปปป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ภายหลังจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ กับเจ้าหน้าที่ปปง. รายหนึ่ง พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ ไฟล์เสียง และเอกสารทางไลน์ที่เจ้าหน้าที่ ปปง. คนดังกล่าวมีการเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท จากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้เวลาในการสอบปากคำ 45 นาที
ภายหลังการสอบปากคำนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้รับหมายเชิญจากพนักงานสอบสวนบก.ปปป. มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการร้องเจ้าหน้าที่ปปง. ที่มีการเรียกรับสินบนนักธุรกิจในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งหลักฐานที่ปรากฎค่อยข้างชัดเจนว่ามีการเรียกรับสินบนจริง จึงได้มอบหลักฐานทั้งไฟล์ภาพและเสียง ข้อความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ให้กับพงส.บก.ปปป. เพื่อส่งต่อสำนวนไปยังปปช.ต่อไป โดยในวันที่ 16 พฤศจิกายน ทางพงส.บก.ปปป.จะต้องสรุปสำนวนส่งปปช. เนื่องจากมีอำนาจสอบสวนภายใน 30 วันตามกฎหมาย ทั้งนี้ผมมั่นใจว่าจะเอาผิดได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่ที่ปปช.จะพิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดสามารถเปิดเผยชื่อได้คือ นายกิตติศักดิ์ (สงวนนามสกุล)เป็นเจาหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ไม่ได้เป็นผอ.จริงตามที่มีการกล่าวอ้าง
