อธิบดีพินิจฯ เผยแว้นซิ่งลด ‘วิภาวดีรังสิต’ ฮิต – ร้านแต่งเช่าห้องแถว ‘โมดิฟาย’ หลบจนท.

นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

อธิบดีกรมพินิจฯเผย แก้ปัญหาเด็กแว้นคืบ หลายถนนพบนัดแข่งซิ่ง ลดลง เส้นหลักยอดฮิต นัดรวมตัว “วิภาวดีรังสิต”ร้านแต่งปรับรูปแบบ เช่าห้องแถวเป็นอู่ พรางตาเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการประสานกำกับติดตามผลการดำเนินงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โดยมีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการปกครอง กรมควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าร่วมประชุมหารือรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติการและแนวทางการดำเนินงาน

นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการป้องกันและปราบปรามกรณีเด็กและเยาวชน ที่แข่งรถในทางสาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบได้รายงานข้อมูลพบว่า ในถนนหลายเส้นมีปริมาณการแข่งรถน้อยลงแต่ถนนเส้นทางหลังที่ยังเป็นได้รับความนิมยมประลองความเร็ว คือ ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ถึง 5 แยกลาดพร้าว และ ถนนอุทยานและพุทธมณฑล สาย 4 ตั้งแต่ แยกทางเข้าพุทธมณฑล ถึงประตูทางเข้าพุทธมณฑลตลอดเส้นอุทยาน แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา

นายวิศิษฎ์ ยังกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ยังคงมีปัญหาเรื่องการตรวจสอบ จับกุมในประเด็นการแข่งรถข้ามเขตพื้นที่ระหว่างกองบัญชาการ กองบังคับการ เนื่องจากถนน 1 เส้น ที่ใช้แข่งมีการคาบเกี่ยวกัน แนวนโยบายของพล.อ.ไพบูลย์ เน้นเรื่องการบูรณาการความร่วมมือ ตั้งแต่การเฝ้าระวังการร่วมตัว ของกลุ่มเยาวชน เพราะส่วนใหญ่จะมีการรวมตัวที่สถานบันเทิง อย่างไรก็ตามในส่วนของขั้นตอนหลังการจับกุมแล้ว มีความเห็นร่วมกันในแนวทางปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมาย คือหากถูกจับกุม จะไม่ให้ประกันตัวทันที แต่จะต้องผ่านกระบวนการอบรม ของ กรมพินิจฯ โดยกรมพินิจฯจะทำประวัติและให้รายงานตัว 3 ปี จากนั้นจะให้หน่วยานที่เกี่ยวข้อง เข้ามารับผิดชอบในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคม เพื่อเรียกพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองเข้ามารับผิดชอบและมีส่วนร่วมกับการกระทำของบุตรหลาน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้งนี้เป็นการป้องกันไม่ให้พ่อแม่ผู้ปกครอง เข้าไปมีส่วนส่งเสริม ให้มีการซื้อจักรยานยนต์แล้วนำมาแข่งบนทางสาธารณะ

Advertisement

นายวิศิษฎ์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อมูลจากกทม.มีข้อมูลที่น่าใจคือ รูปแบบของร้านขายอุปกรณ์ตกแต่ง รถจักรยานยนต์ หรืออู่ปรับแต่งเครื่องยนต์ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ไม่ได้เปิดโชว์ ให้เห็นเป็นจุดเด่น แต่เปลี่ยนรูปแบบไปเช่าตึกแถว เหมือนที่พักอาศัยทั่วไป แต่มีการนำรถไปประกอบตกแต่ง มีการทำห้องเก็บเสียง เพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่น ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบและสืบค้นข้อมูลเหล่านี้ เพื่อหาทางป้องกัน ในส่วนของสถานบริการก็อยู่ระหว่างการกำหนดเขตพื้นที่ (โซนนิ่ง) ตอนนี้เหลือเพียง 4 จังหวัดเท่านั้น การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่พบว่ามีความล่าช้าในการเปิดสถานบริการที่กระทำผิดตามคำสั่ง ม.44 รวมถึงขั้นตอนการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งที่ประชุมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการแก้ไข

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระความผิด ในการขับแข่งรถในทางสาธารณะ ในเขตพื้นที่ กรุงเทพฯ มีทั้งสิ้นจำนวน 10 เส้นทาง 1.ถนนบรมราชชนนี 2.บางนา-ตราด 3. เพชรเกษม 4.ราชพฤกษ์ – ถ.ชัยพฤกษ์ 5. รามอินทรา 6. วิภาวดีรังสิต 7. สรงประภา 8. อุทยานและพุทธมณฑล สาย4 9 ถนนกาญจนาภิเษก 10. พระราม 2

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อมูลพบว่าในช่วงเดือนเมษายน พบว่าถนน ราชพฤกษ์-ถ.ชัยพฤกษ์ ไม่มีการแข่ง แต่ช่วงเดือนมีนาคม มีจำนวน 2 ครั้ง ถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 5 ครั้ง เดือนมีนาคม 3 ครั้ง ถนนอุทยานและพุทธมณฑล สาย 4 เดือนเมษายน พบแข่ง 1 ครั้ง เดือนมีนาคม 3 ครั้ง ถนนกาญจนาภิเษก เดือนเมษายน 1 ครั้ง เดือนมีนาคม 2 ครั้ง พระราม 2 เดือนเมษายน พบแข่ง 2 ครั้ง เดือนมีนาคม 2 ครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image