‘พี่คล้าว2018’ ร้อง’บิ๊กบัว’ขอเปลี่ยนตัว-ตั้งกก.สอบสวนพงส.คันนายาว

‘พี่คล้าว2018’ ร้อง’บิ๊กบัว’ขอเปลี่ยนตัว-ตั้งกก.สอบสวนพงส.คันนายาวอ้างตั้งข้อหาเกินจริงลั่นพร้อมพบตร.14 ธ.ต.นี้แน่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จากที่นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินข้อหาฉ้อโกงกับนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือพี่คล้าว 2018 อายุ 34 ปี ชาวบ้านต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท หลังระดมทุนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไปซื้อควายทองคำ จากนายบุญเลิศ การภักดี นายกอบต.สุขเดือนห้า 1 แสนบาท นั้น นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพจสายตรงกฎหมาย พร้อมด้วย นายสุรัตน์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กรณี สน.คันนายาว ตั้งข้อหาเกินจริง และขอให้ถอนข้อหาเรี่ยไร กับข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว โดยมี พ.ต.อ.วิศิษฐ์ หมื่นสุวรรณ์ ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว

นายรัชพล เปิดเผยว่า มาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ถอนข้อหาจำนวน 4 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร่ พ.ศ.2487 เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายเรี่ยไร เพราะไม่มีการเรี่ยไรเงินในถนนหลวงหรือที่สาธารณะ ไม่มีการพิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนาจึงไม่มีความผิดตามพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 รวมถึงใช้วิทยุกระจายเสียง เนื่องจากเป็นการกระทำผ่านเฟซบุ๊กที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็ไม่มีความผิด เนื่องจากนายสุรัตน์ไม่ได้เป็นคนนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนความผิดฐานฉ้อโกงก็ไม่เป็นความผิดเพราะขาดเจตนาที่จะกระทำการดังกล่าว และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะไม่ได้มีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะพูดคุยกับทนายคนดังที่กล่าวหา ก่อนที่จะพานายสุรัตน์เข้าแจ้งความกลับในความผิดข้อหาแจ้งความอาญาผู้อื่นโดยเป็นเท็จ

“นอกจากนี้ กรณีพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว รับแจ้งความร้องเรียนในวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใน 3 วันก็สรุปความผิดแล้ว ถามว่ามีมูลพอหรือไม่ที่จะสรุปความผิดของนายสุรัตน์ ถือว่าเป็นการรวบรัดด้วยความรวดเร็วเกิดไปโดยที่ยังไม่ได้มีการซักถามนายสุรัตน์ ปฏิบัติหน้าที่รวดเร็วเกินไปและไม่เป็นธรรมแก่นายสุรัตน์ ขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวทั้งชุดและตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวที่ทำคดีดังกล่าว เนื่องจากกรณีที่ชัดเจนที่สุดคือการตั้งพ.ร.บ.เรี่ยไร่ ไม่ผิดข้อหาดังกล่าวแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาดังกล่าวได้อย่างไร เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการร้องเรียนครั้งนี้อย่างแน่นอน” นายรัชพล กล่าว

Advertisement

ด้านนายสุรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องการแจ้งความ อยากกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ก็อยากจบกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีทนายชื่อดังมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เจตนาตนก็พูดในส่วนที่ตั้งใจที่จะซื้อเจ้าทองคำและการสร้างรอยยิ้มเท่านั้นอย่างที่เห็นในเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าการมาตั้งคำถามกับผมมากก็ทำให้เกิดความงงขึ้นมาเหมือนกัน พอพูดไปก็มาตั้งคำถามเพิ่มเติมทำให้ต้องหยุดคิด ตอบไปแล้วตั้งคำถามใหม่ซ้ำๆ ทำให้ตนเองเกิดความงง พอตอบไปอย่างหนึ่งก็ถามมาใหม่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวในวันที่ 14 ธ.ค. นี้เวลา 13.00 น. ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image