คุมโจรชิงเงินแบงก์ทำแผน สารภาพเศรษฐกิจวูบเงินขาดมือตัดสินใจก่อเหตุ ซื้อปืนผ่านเน็ต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มกราคม ที่สน.บางขุนเทียน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.น.9 พ.ต.อ.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผกก.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส. ร่วมกันแถลงจับกุม นายนพพล หรือไม พงศ์ฉบับนภา อายุ 28 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวส้ม ทะเบียน สนท 626 กรุงเทพมหานคร รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็มสแลช สีน้ำเงิน อาวุธปืนขนาด 9 มม.กระสุน 13 นัด เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ สร้อยคอทองคำขาว มูลค่า 15,000 บาท รถกระบะยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีน้ำเงิน ทะเบียน ฒอ 1119 กรุงเทพมหานคร กล้องดิจิตอล และโทรทัศน์แอลอีดี 43 นิ้ว โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 72/52 ซอยเอกชัย 4 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง
ทำแผนปล้น1
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา เวลา 13.20 น. นายนพพลก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงเงินสดของธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนเทียน ได้เงินไป 223,400 บาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟไอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่หน้าธนาคารหลบหนีไป จากการสืบสวนขยายผลของ สน.บางขุนเทียน และ กก.สส.บก.น.9 พบหลักฐานภาพคนร้ายตามกล้องวงจรปิด จึงขออนุมัติหมายจับเอาไว้ ก่อนแกะรอยตามล่าตัว พบเบาะแสทราบว่า นายนพพลเช่าบ้านพักอยู่ในซอยเอกชัย 8 จึงเข้าจับกุมไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด
ทำแผนปล้น3
สอบสวนนายนพพล รับว่า ครอบครัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำธุรกิจขายเครื่องมือก่อสร้าง ปกติพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้จ่ายทุกเดือน ส่วนตนประกอบอาชีพรับส่งขนมถ้วยให้ร้านค้าย่านฝั่งธนบุรี มีรายได้เดือนละประมาณ 20,000-30,000 บาท แต่ระยะหลังเศรษฐกิจไม่ดี พ่อไม่ส่งเงินมาให้และรายได้จากงานลดลง ทำให้ค้างค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่างวดรถกระบะ มานานหลายเดือน จึงวางแผนชิงทรัพย์ธนาคารดังกล่าวเพราะอยู่ใกล้บ้านเช่าไม่เกิน 2 กิโลเมตร สั่งซื้ออาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ตราคากระบอกละ 40,000 บาทมาเก็บไว้ จากนั้นเมื่อวันที่ 20 มกราคมผ่านมา ขี่รถจักรยานยนต์มาสำรวจเส้นทางหลบหนี ก่อนตัดสินใจลงมือเมื่อวันที่ 22 มกราคม ได้เงินมาทั้งสิ้น 223,400 บาท นำไปจ่ายหนี้สินที่ค้างชำระ ซื้อกล้องดิจิตอล ดาวน์รถจักรยานยนต์คันใหม่ ซื้อโทรทัศน์แอลอีดี เปลี่ยนล้อแม็ก และซื้อทองคำขาว จนเงินหมด

ต่อมาเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัว นายนพพลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนเทียน โดยชี้จุดจอดรถจักรยานยนต์ก่อนเดินขึ้นไปบนธนาคาร ชักอาวุธปืนออกมาขู่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับ แล้วกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปกวาดเงินสดในลิ้นชักทั้งสิ้น 3 เคาน์เตอร์ ใส่กระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมา โดยก่อนเดินออกจากธนาคาร ไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี ทั้งนี้นายนพพลยังชักปืนขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)ที่เข้ามาขวางทำให้สามารถเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุไปได้