จับ “อิหร่าน” หลอกนทท.ญี่ปุ่น ให้เงินเที่ยวฟรี 2 แสน ที่แท้รวมหัวยากูซ่าลวงขนไอซ์รูปแบบใหม่ละลายน้ำชุบเสื้อ!!

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผบช.สตม. และนายซาชิโอะ ฮิกาชิอุระ เลขานุการโทและกงศุลสถานทูตญี่ปุ่น แถลงจับกุมนายมูฮัมหมัด อาลี อีซาซี่ ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน พร้อมของกลางไอซ์ 3.65 กิโลกรัม และเสื้อผ้าชุบสารละลายไอซ์ น้ำหนัก 5.8 กิโลกรัม หลังรับแจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นว่ารับกระเป๋าบรรจุของกลางดังกล่าวจากผู้ต้องหาโดยให้นำเดินทางติดตัวไปด้วย

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่าเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยแจ้งเหตุพบ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งถูกหลอกให้ไปร่วมโปรแกรมเที่ยวฟรีผ่านเว็บไซต์ www.free-travel.co.jp    ซึ่งระบุเส้นทางประเทศไทย กรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และสิ้นสุดปลายทางที่กรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยขนวัตถุต้องสงสัย พร้อมให้เงินค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท ต่อมานักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเปิดกระเป๋าพบเสื้อผ้าลักษณะแข็งผิดปกติ จึงประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ก่อนที่ บก.สส.สตม.จะวางแผนให้เจ้าของมาเข้ารับกระเป๋าเดินทางกลับไป

ต่อมานายมูฮัมหมัด อาลั อีซาซี่ ชางอิหร่าน อายุ 43 ปี ผู้ต้องหา เจ้าของกระเป๋าใบดังกล่าวติดต่อขอเข้ารับคืนจึงจับกุมเมื่อตรวจค้นภายในกระเป๋าพบเสื้อผ้าแข็งจากการชุบสารเสพติดบรรจุในถึงพลาสติกใส 4 ห่อ ซึ่งเป็นวิธีซุกซ่อนยาเสพติดที่พบเป็นครั้งที่สองในประเทศไทย นอกจากนี้พบไอซ์ชนิดเกล็ดขาว ห่อกระดาษคาร์บอนดำ 6 ห่อ ซ่อนในผนังกระเป๋า จึงขยายผลจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเอกสารต่างๆ และเข้าตรวจค้นห้องพักคอนโดมิเนียมใน ซ.พัฒนาการ42 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พบกระเป๋าลักษณะเดียวกัน 1 ใบ ต่อมาตรวจค้นจุดที่ 2 คือ ห้องพักคอนโดมิเนียม ใน ซ.พัฒนาการ 26 ยึดกระเป๋าแบบเดียวกัน พบไอซ์อีกจำนวน 5 ห่อ น้ำหนักรวม 1.364 กิโลกรัม

จากการสอบสวนนายมูฮัมหมัด สารภาพเป็นผู้นำกระเป๋าดังกล่าวไปมอบกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเอง โดยร่วมกับเพื่อนชาวอิหร่านและเครือข่ายยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น ทำการหลอกลวงเหยื่อผ่านการพูดคุยในแอพพลิเคชั่น imo(อิโม) ให้ไปเที่ยวฟรีผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว โดยนำกระเป๋าเดินทางที่ซุกซ่อนยาเสพติดไปในประเทศต่างๆ ในโซนเอเชียและยุโรป

Advertisement

จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายมูฮัมหมัด ว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่เกิดเหตุ โดยต่อจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายทั้งในไทย และญี่ปุ่นเพื่อทลายเครือข่ายนี้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image