ฝากขังครั้งที่ 4 สามีชาวจีนโหด จับภรรยากดน้ำในสระโรงแรมหรูที่ภูเก็ต หวังเงินประกันชีวิตกว่าร้อยล้าน แจ้งกล่าวข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล คาดสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลก่อนสิ้นเดือนนี้
จากกรณีสื่อประเทศจีนมีการนำเสนอข่าว นายจาง เว่ยฝาน หนุ่มชาวจีน ก่อเหตุฆ่านาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) ภรรยาตัวเอง กดการกดน้ำในสระของโรงแรม ขณะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ ต.กมลา อ.กะทู้จังหวัดภูเก็ต เพื่อหวังเคลมเงินประกันชีวิต ที่ซื้อในชื่อของภรรยาหลายฉบับ มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านหยวน หรือ 143 ล้านบาท ก่อนสร้างสถานการณ์ว่าภรรยาจมน้ำ เสียชีวิต และขอกลับประเทศจีนไปก่อนเพื่อพาลูกสาวไปส่ง แต่ทางพ่อแม่ของภรรยาสงสัยสาเหตุการณ์เสียชีวิต จึงแจ้งให้นายจางกลับมารับศพภรรยาพร้อมกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเค้นสอบปากคำจนรับสารภาพว่าฆ่าภรรยาตัวเองจริง
พ.ต.อ.สมคิด บุญรัตน์ ผกก.สภ.กมลา กล่าวว่า คดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กงสุลจีน จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 61 ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีน ชื่อนาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน ซึ่งมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่กมลา พร้อมด้วยครอบครัว ได้ประสบอุบัติเหตุจมน้ำที่สระน้ำของโรงแรม และได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.กมลา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของ วันที่ 29 ตุลาคม 2561 นาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน พร้อมด้วยครอบครัว จำนวน 3 คน ได้เข้ามาพักที่โรงแรม ต่อมาเวลาประมาณ 20.50 น.เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับของโรงแรมได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ จากนาย เชียง ยี่ฟัน ซึ่งเป็นสามี ได้โทรมาขอความช่วยเหลือกับทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมว่า ขอหมอและให้พาไปโรงพยาบาล
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่า นาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) สวมชุดว่ายน้ำ นอนอยู่ข้างสระน้ำ สภาพร่างกายเหมือนคนตกน้ำ จากนั้นจึงได้ช่วยทำ CPR และได้แจ้งกู้ภัยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล ประมาณ 15นาที เจ้าหน้าที่กู้ภัยกมลา ได้นำ นาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) ส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อทำการช่วยเหลือ แต่นาง จาง เจีย (MRS.ZHANG JIE) ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลป่าตองในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ผู้เป็นสามีได้แจ้งกับทางโรงแรมขอให้จองตั๋วเดินทางกลับประเทศจีนโดยอ้างว่าจะไปส่งลูกสาวก่อนที่จะเดินทางมารับศพภรรยาอีกครั้ง โดยเดินทางออกไปตั้งแต่เช้าวันที่ 30 ต.ค.หลังเกิดเหตุ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากทางกงสุลจีน จึงได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ที่สุราษฎร์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมนำตัวสามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางกลับมาพร้อมกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ เนื่องจากสงสัยสาเหตุการตาย
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเค้นสอบปากคำจนกระทั่งยอมรับว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่าภรรยาตัวเอง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานและนำตัวฝากขัง โดยวันนี้ (13 ธ.ค.) ครบรอบฝากขังครั้งที่ 3 และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวฝากขังรอบที่ 4 ซึ่งมีกำหนดการฝากขังครั้งละ 12 วัน ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีนั้นทางพนักงานสอบสวนรอผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ ซึ่งส่งไปตรวจที่มอ.หาดใหญ่คาดว่าจะทราบผลภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ทางพนักงานสอบได้เข้าพบผู้ต้องหาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมหลังจากได้รับข้อมูลเพิ่มเติมทางทางกงสุลถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตให้กับผู้เสียชีวิตโดยมีสามีเป็นผู้รับผลประโยชน์มูลละค่าสูง ถ้าการสอบปากคำและพยานหลักฐานบงชี้ว่าเป็นการฆ่าเพื่อเอาเงินประกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งข้อหาที่หนักขึ้น เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไต่ตรองไว้ก่อน
