อ่านมาราธอนคดี ‘ถวิล พึ่งมา’ อดีตอธิการสจล.-พวกทุจริต 689 ล. คาดจบ 2ทุ่มครึ่ง ลุ้น!

ภาพประกอบข่าว

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุเวลา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริต สจล.คดีหมายเลขดำ อ.1992/58 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 11 (อัยการจังหวัดมีนบุรี) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 43 ปี อดีตผู้จัดการธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์, น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 59 ปี, นายพูนศักดิ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 30 ปี, น.ส. จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ อายุ 30 ปี, นายสมบัติ โสประดิษฐ์ อายุ 47 ปี, นางระดม มัทธุจัด อายุ 58 ปี, นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการณ์ อายุ 35 ปี, นายภาดา บัวขาว อายุ 31 ปี, นายถวิล พึ่งมา อายุ 64 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อายุ 54 ปี อดีตผู้ช่วยอธิการบดี และนายสลุต ราชบุรี อายุ 57 ปี นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด, นายสมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ และนายธวัชชัย ยิ้มเจริญ เป็นจำเลยที่ 1-14 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันปลอมตั๋วเงินและใช้ตั๋วเงินปลอม, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฟอกเงิน, สนับสนุนพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต, สนับสนุนพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 264, 265, 266, 268, 335, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 11 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 7, 10 และ 60

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-12 พ.ย.2555 พวกจำเลยได้ร่วมกันยักยอกทรัพย์เบียดบังทรัพย์ จำนวน 689 ล้านบาทเศษ ของ สจล.ไปเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต และยังร่วมกันฟอกเงินจำนวน จำนวน 303 ล้านบาทเศษด้วย

พวกจำเลยให้การปฏิเสธ โดยนายถวิล กับพวก ซึ่งเป็นอาจารย์ สจล.รวม 3 คนได้รับการประกันตัว

ขณะที่วันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยที่ถูกคุมขังมาจากเรือนจำ ส่วนจำเลยที่ได้ประกันตัวก็มาศาลครบทั้งหมด

Advertisement

โดยศาลได้เริ่มอ่านคำพิพากษาตั้งแต่เวลา 08.00 น. กระทั่งเวลา 12.00 น.เศษ นับเป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง ศาลได้อ่านคำพิพากษายังไม่เสร็จสิ้น ทั้งนี้ ช่วงเช้าได้มีการพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ของนายทรงกลด อดีตผจก.ธ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซีสุวินทวงศ์ จำเลยที่ 1 และ น.ส.อำพร ผอ.ส่วนการคลัง สจล.จำเลยที่ 2 ซึ่งศาลรับฟังพยานหลักฐานอัยการโจทก์ และ สจล.โจทก์ร่วมแล้ว รับฟังได้ว่า ทั้ง 2 ร่วมกันฉ้อฉลเงินจากบัญชี สจล.เมื่อเดือน ธ.ค.57 ยอดแรกกว่า 80 ล้านบาท และยังร่วมกับนายพูนศักดิ์ จำเลยที่ 3 ฟอกเงินที่จำเลยที่ 3 ได้เปิดบัญชีรับฝากเงินไว้แล้วมีการโอนเงินยอด 55 ล้านบาท ไปเพื่อประโยชน์ของพวกตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาจนมาถึงช่วงเวลาพักเที่ยง จึงให้พักการอ่านเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้โจทก์และจำเลยรวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้รับประทานอาหารกลางวัน เนื่องจากคำพิพากษายังมีเนื้อหาอีกจำนวนมากที่จะต้องอ่าน โดยศาลกำหนดเวลาไว้ในเบื้องต้นว่าจะอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นวันนี้ ในเวลาประมาณ 20.30 น. โดยระหว่างนี้ในกลุ่มของจำเลยที่ได้รับการประกันตัว ศาลก็ให้รับประทานอาหารกลางวันภายในห้องพิจารณาคดี ตามมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันการอาจจะหลบหนี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image